แข้งยอดเยี่ยมเอเชีย คว้ารางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์มาครองจากผลงาน 11 ประตู
แข้งยอดเยี่ยมเอเชีย ดาวเตะชาวสุพรรณบุรี คลุคลีกับฟุตบอลตั้งแต่เด็ก เริ่มต้นเส้นทางลูกหนัง อาชีพทั้งฟุตบอล และฟุตซอลควบคู่
ไปด้วยกัน ผลงานในเวทีโต๊ะเล็กก็ไม่ธรรมดา เมื่อเคยพาทีมชาติไทยจบอันดับที่ 3 ศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2000 ที่ไทย เป็นเจ้าภาพ คว้าตั๋วลุยฟุตซอลโลก 2000 ที่กัวเตมาลา ได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมีนักเตะไทยลีกไม่กี่คนที่สามารถเป็นที่ยอดระดับเอเชีย แต่ เทิดศักดิ์ คือหนึ่งในนั้น และเป็นผู้เล่นไทยคนเดียวที่เคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเอเชียนอกจากนี้ยังคว้ารางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์มาครองจากผลงาน 11 ประตู ถือเป็นผู้เล่นไทย คนแรกที่สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวเอเชียได้ แต่ผลงานบนผืนหญ้าทำให้เขากลายเป็นตำนานไทยลีกจากฝีเท้า และความสำเร็จที่เขาสร้างมาเอง เทิดศักดิ์ เริ่มต้นบนเส้นทางของตัวเองกับ สโมสรตลาดหลักทรัพย์ฯ มหาอำนาจลูกหนังไทยในยุคนั้นยาวนานกว่า 8 ฤดูกาล ก่อนจะย้ายสู่ บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่วงพีคที่สุดของน้าเทิดจากฟอร์มการเล่นสุดโดดเด่นในเวทีเอเชีย ทำให้ดาวเตะทีมชาติไทย ได้โอกาสย้ายออกไปผจญภัยต่างแดนเมื่อถูก สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ ทีมดังแห่งศึกเอสลีก สิงคโปร์ ดึงไปร่วมทัพ ในยุคนั้นฟุตบอลอาชีพของสิงคโปร์กำลังรุ่งเรืองแข็งแกร่งทั้งคุณภาพ และมูลค่าทางการตลาด การได้ไปค้าแข้งที่นั่นถือว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นของแข้งไทย
เวลานั้นเขาคือหนึ่งในนักเตะไทยที่เก่ง และครบเครื่องทั้งการผ่านบอล ความคล่องตัว และการจบสกอร์ที่คมกริบ ส่งผลให้มีหลายสโมสรจากต่างแดนจ้องคว้าไปร่วมทัพ ในวัย 26 ปี กับการลงเล่นในสีเสื้อ มังกรไฟ เทิดศักดิ์ เป็นกำลังสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2000 มาครองได้สำเร็จ โดยในปี 2002 เป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ทำให้ชื่อของเขากระฉ่อนทั่วเอเชียเมื่อพา บีอีซี เทโรฯ คว้ารองแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2002-2003 โดยแพ้ อัลไอน์ ของยูเออี ในรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็กลายเป็นนักเตะไทยเพียงคนเดียวที่คว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมรายการเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก มาครองเพียงปีแรกที่นั่น เทิดศักดิ์ มีส่วนสำคัญพาทีมคว้าแชมป์เอสลีกมาครองอย่างยิ่งใหญ่ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังโชว์ฟอร์มสุดยอดจนคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมเอสลีก พร้อมรั้งดาวซัลโวอันดับ 3 จากผลงาน 27 ประตู ด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมทำให้ อีสต์เอเชีย แบงค์ ทีมในลีกเวียดนาม คว้าไปร่วมทีม แต่โชคร้ายที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ก่อนจะกลับมาอยู่เป็นกำลังหลักให้ สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ อีกครั้งการกลับมาหนนี้ของ เทิดศักดิ์ ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เพราะแม้อายุจะมากขึ้น แต่ยังเปี่ยมด้วยคุณภาพบวกความเก๋าที่ยังคุมแดนกลางสบายๆ ทำให้ยังคงเป็นกำลังหลักของทีมต่อไป ซึ่งปีนั้นเขามีส่วนช่วย ชลบุรี ผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2010 มาครองได้สำเร็จอีกด้วย แต่บทบาทในสนามของ เทิดศักดิ์ ค่อยๆลดลงไป เมื่อถูกจับไปรับตำแหน่งโค้ชแอนเพลย์เยอร์ คุมทีมลุยศึก ไทยลีก แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรปี 2017 เทิดศักดิ์ ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ ปิดฉาก 23 ปี บนเส้นทางลูกหนังของตัวเอง โดยหลังจากนั้นเขามุ่งหน้าสู่เส้นทางโค้ชเต็มตัวทั้งในบทบาทกุนซือใหญ่ และผู้ช่วยกุนซืออีกหลายทีม ซึ่งล่าสุดเมื่อปี 2020 เพิ่งลาออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช อุทัยธานี เอฟซี จากผลงานที่ไม่เป็นไปตามหวัง แต่เจ้าตัวยังมุ่งมั่นกับการทำหน้าที่โค้ชต่อไปตลอดการค้าแข้งกับ สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ พาทีมเป็นแชมป์เอสลีก 4 สมัย และแชมป์สิงคโปร์คัพ อีก 2 สมัย กลายเป็นนักเตะไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง หลังจากนั้นปี 2010 ด้วยวัยที่มากขึ้น เทิดศักดิ์ ตัดสินใจกลับมาค้าแข้งในไทยอีกครั้ง โดยมี ชลบุรี เอฟซี เป็นสถานีต่อไป การมาของดาวเตะระดับตำนานทำใฟ้แฟน ฉลามชล ต่างตั้งตารอคอยชมฝีเท้าใน ชลบุรี สเตเดียมแต่การถูกยกเป็นแข้งระดับตำนานไทยลีกไม่ใช่แค่ฝีเท้ากับผลงานความสำเร็จ แต่ยังรวมความมีวินัย มุ่งมั่น ขยันซ้อม ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับให้นักเตะรุ่นหลังนำไปเป็นแบบอย่างเพื่อจะก้าวเท้าตามรอยความยิ่งใหญ่ของตำนานผู้นี้ให้ได้ในสักวันหนึ่งตลอดชีวิตการค้าแข้งของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น เขาคว้าแชมป์ไทยลีก 3 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย ถ้วยก. 2 สมัย ส่วที่สิงคโปร์ ได้แชมป์ลีกมา 4 สมัย และสิงคโปร์คัพ อีก 2 สมัย และยังเป็นนักเตะไทยเพียงคนเดียวที่คว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมรายการเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก สมัยที่ค้าแข้งให้กับทีมบีอีซี เทโรศาสน ถือเป็นความสำเร็จที่ไม่ได้ทำกันง่ายๆสำหรับนักฟุตบอลคนหนึ่ง