มาร์เกซหวัง ฝึกรถจักรยานยนต์หนักขึ้นแม้ “แขน” อนุญาต

มาร์เกซหวัง มาร์คมาร์เกซนักบิดต่างดาวจากเรปโซลฮอนด้า หวังว่าจะเพิ่มความเข้มข้นของการซ้อม “รถจักรยานยนต์” ได้มากขึ้นในตอนซัมเมอร์เบรก

มาร์เกซหวัง “ถ้าหากแขนมีภาวะพร้อม” เวลาที่เจ้าตัวยังคง “พักฟื้น” รวมทั้งจัดแจงร่างกายเพื่อฟื้นฟู “แขนด้านขวา” ที่ยังคงมีลักษณะเจ็บก่อกวนอยู่ นักบิดต่างดาวถูกบังคับให้พักการประลองนานร่วม 10 เดือน

ภายหลังที่แขนด้านขวาหักจากการล้มอย่างหนักในศึกโมโตจีพี สนามแรกของปี 2020 ที่ เฆเรซ เมื่อกรกฎาคมปีที่ล่วงเลยไป ซึ่งจากสถานะการณ์ดังที่กล่าวถึงมาแล้วทำให้เขาจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง

มาร์เกซกลับมาลงสู่สนามแข่งคราวแรกในรายการ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ ที่ ปอร์ติเมา เมื่อเมษายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา รวมทั้งยังคงประสบพบปัญหาอาการล้าที่แขนด้านขวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ศีรษะไหล่ซึ่งเป็นอาการเข้าแทรกข้างหลังผ่าตัด ข่าวโมโตจีพีวันนี้

เนื่องด้วยเขาเคยเข้ารับการผ่าตัดที่ “ไหล่ขวา” มาแล้วเมื่อสิ้นฤดู 2019 นับจากกลับมาลงบิดในโมโตจีพี, มาร์เกซถูกจำกัดการซ้อมจักรยานยนต์อย่างเข้มงวด แม้ว่างเว้นจากสุดสัปดาห์ของการประลอง ภายใต้คำบัญชาของหมอ

แม้กระนั้นเขาหวังว่าจะเปลี่ยนสิ่งนี้ได้ ในตอนการพักครึ่งฤดู 5 อาทิตย์ ใช่ครับ, แน่ๆว่าปัจจุบันนี้อยู่ในตอน ซัมเมอร์เบรก แล้วก็พวกเราจะมีเวลาทั้งหมดทุกอย่างเพื่อการฟื้นฟูสภาพของผม มาร์เกซกล่าวที่แอสเซ่น พื้นฐานเลยเป็นผมอยากพัก ขั้นต่ำก็ 1 อาทิตย์ครึ่งถึง 2 อาทิตย์

มาร์เกซหวัง ก่อนหน้าที่ผมเริ่มรักษาตัวด้วยการผ่าตัดไหล่ขวาในปี 2019 แล้วหลังจากนั้นเพียงพอเริ่มดียิ่งขึ้นก็จะต้องมาผ่าตัดแขนอีก

มันเป็นตอน 2 ปีที่ไม่มีวันหยุด รวมทั้งผมอยากพักตอนนี้ แล้วผมจะใช้เวลาสำหรับในการดำเนินการอย่างเต็มเปี่ยม แผนของผมเป็นฟื้นฟูแขนให้เยี่ยมที่สุด เพื่อสามารถได้รับอนุญาตให้ฝึกซ้อมรถจักรยานยนต์ได้มากขึ้น เพราะเหตุว่าเวลานี้ผมมีเพียงแค่แข่งขันกับแข่งขัน (ข้างหลังกลับจากการบาดเจ็บ)

แผนของผมเป็นลงฝึกรถมอเตอร์ไซค์ให้มากเพิ่มขึ้น ก่อนไปสู่ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ และก็ลงฝึกซ้อมด้วยจักรยานยนต์หลายแบบเพื่อซ้อมสำหรับฟื้นฟูสภาพร่างกาย

สำหรับในการชิงชัยที่ ซัคเซนริง และก็แอสเซ่น นับว่าเป็นสัญญาณที่การเปลี่ยนเหตุการณ์ของ ฮอนด้า เมื่อ มาร์เกซสามารถคว้าแชมป์ได้ในศึก เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ กับเลย์เอาท์แบบวิ่งทวนเข็มนาฬิกา มั่นใจแน่นอน

โดยที่แอสเซ่น, ฮอนด้า ได้เปิดตัว แชสซีส์ ใหม่ ซึ่งช่วยทำให้ มาร์เกซคว้าชั้น 7 จากการออกตัวในกริดที่ 20 โดยนับเป็นการอัพเกรดอย่างเป็นทางการหนแรกของเอชอาร์ซี ในปีนี้ที่เห็นผลจริงๆมาร์เกซมั่นใจว่าการอัพเกรดครึ่งนี้ช่วยทำให้ ฮอนด้า “มีแรงบันดาลใจ” มากขึ้นเรื่อย ๆ กับการพัฒนาในอนาคต

ภายหลังที่มีปัญหาอย่างสม่ำเสมอในปี 2021 กับรถแข่งอาร์ซี213วี แน่ๆว่าเอชอาร์ซี กำลังทำงานมากกันอยู่ เวลาเดียวกันผมก็แฮปปี้มากมายๆกับพวกเขา เนื่องจากว่าตรงนี้ (แอสเซ่น) พวกเราได้รับองค์ประกอบแรก (แชสซีส์ใหม่) ซึ่งมีไม่เหมือนกันออกไปรวมทั้งมันใช้งานได้จริงในปีนี้ ด้วยแชสซีส์ ใหม่นี้

ซึ่งผมใช้ลงแข่งขันที่แอสสังเวย มันช่วยทำให้ผมปรับแก้เล็กน้อยได้เหมือนกัน มาร์เกซกล่าว ด้วยเหตุนี้ ผมแฮปปี้กับพวกเขาและก็สิ่งนี้ก็มอบแรงผลักดันให้กับพวกเรา โดยยิ่งไปกว่านั้นกับวิศวกร

เนื่องจากถ้าหากคุณทุ่มเททำทุกสิ่งทุกอย่างแต่ว่ามันไม่ได้เรื่อง มันจะมีผลให้หงุดหงิดได้อย่างไม่ยากเย็นเลย แม้กระนั้นในช่วงเวลานี้ดูราวกับว่าพวกเราจะค้นบบางสิ่ง ที่จำเป็นต้องทำมัน และก็บากบั่นใช้มันเพื่ออนาคต

เปิดค่าแรงนักบิดโมโตจีพี มาร์เกซสูงสุด “รอสซี่” เบอร์สอง

“นักบิดโมโตจีพี” นับเป็นเยี่ยมในหลุ่มนักกีฬาที่มีการเสี่ยงสูงมากมายเมื่อลงแข่งขันในสนาม ด้วยความเร็วเมื่อจำเป็นต้องดวลกันเต็มดูดรวมทั้งอันตรายที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ค่าแรงในอาชีพนี้ก็เลยได้รับการเฝ้าดูอย่างยิ่ง

มาร์คมาร์เกซขึ้นชื่อว่านักเป็นนักบิดเบอร์หนึ่งของโลกในสมัย 10 ปีข้างหลัง ด้วยผลงานที่โดเด่นทำให้เขาครอบครองความใหญ่โตได้แชมป์โลกพีภรรยาร์คลาส 6 จาก 7 ยุคที่ลงแข่งขัน นับจากปี 2013 ก่อนที่จะมาพลาดเจ็บในปี 2020 ทำให้ไม่อาจจะลงแข่งขันได้ตลอดทั้งปี

มีผลต่อเนื่องมายังฟอร์มในสนามของปีนี้ด้วย “นักบิดต่างดาว” ได้รับคำสัญญาระยะยาวถึง 4 ปี ให้อยู่ต่อกับเรปโซลฮอนด้า ยาวถึงฤดู 2024 ค่าตอบแทนที่เขาได้รับเป็น 12 ล้านเหรียญประเทศสหรัฐอเมริกาต่อปี คิดเป็นเงินไทย 393,240,000 บาท แล้วก็เมื่อบวกกับรายได้จากผู้สนับสนุน รวมทั้งโบนัสจากการลงแข่งขันจะก่อให้เขามีรายได้ต่อปีสูงถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 491,550,000 อย่างยิ่งจริงๆ

รองลงมาเป็น “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ดาวบิดระดับตำนานชาวอิตาเลียน ผู้ครอบครองแชมป์โลก 9 ยุค รวมทั้ง 7 ยุคเป็นการได้แชมป์โลกในรุ่นสูงสุดอย่างพรีเมียร์คลาส รอสซี่ รับค่าจ้างอยู่ที่ 10 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

ซึ่งปัจจุบันนี้เขาบิดให้กับ ปิโตรนาสยามาฮ่า เอสอาร์ที ด้วยข้อตกลงที่ส่งผลขึ้นตรงกับกลุ่มโรงงานยามาฮ่า ทำให้เขายังคงมีรายได้สูงเป็นลำดับที่หนึ่งในแวดวง มาเวริค บีญาเลส นักบิดสแปนิชจากมอนสเตอร์ยามาฮ่า รับค่าแรงอยู่ที่ 8 ล้านเหรียญสสหเมืองอเมริกา

แม้กระนั้นจากการยกเลิกข้อตกลงของเขากับยามาฮ่า เมื่อสิ้นฤดูนี้อาจส่งผลให้เขาจำเป็นต้องจ่ายค่าปรับเป็นปริมาณหนึ่ง แต่ว่ายังไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาในจุดนี้ ด้านแชมป์โลกคนปัจจุบันนี้อย่างโจอันเมียร์ ได้รับค่าแรงงานจากกลุ่มโรงงาน ซูซูกิ มาถึงปีละ 6 ล้านเหรียญอเมริกา

ต่อด้วย โปล เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชที่ย้ายจาก เคทีเอ็ม มาซบเรปโซลฮอนด้า ในปี 2021 เขารับค่าแรงปีละ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเวลาที่ผู้นะบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง ฟาบิโอกวาร์ตาราโรนักบิดเฟรนช์จากมอนสเตอร์ยามาฮ่า เขาถูกเซ็นสัญญาเหมาะสมมโรงงานในปี 2021-2022 ด้วยกติกาค่าเนื่อยปีละ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แล้วก็ทดแทนด้วยการผลิตผลงานกระฉูดให้กับกลุ่ม โดยนักบิดที่ได้ค่าจ้างต่ำที่สุดในปี 2021 คือ อิเคร์ เลกัวน่า นักบิดดาวรุ่งชาวสแปนิชจาก เทคทรี เคทีเอ็ม ด้วยคำสัญญาปีละ 200,000 เหรียญประเทศสหรัฐอเมริกา คิดเป็นเงินไทย 6,553,200 บาทต่อปี https://www.judodairago.com/