เพื่อการพัฒนา ก็เซ็ตอัพรถแข่งแม้ว่าจะเพิ่งจะได้แชมป์โลกก็ตาม

เพื่อการพัฒนา

เพื่อการพัฒนา ต้องเคาะเรื่องทีมอิสระ ที่กำลังใกล้จะมีการเปลี่ยนแปลง

เพื่อการพัฒนา ดาวิเด บริวิโอ บอสใหญ่ของกลุ่ม ซุซูกิ เอ็คสตาร์ ใน โมโตจีพี ขีดเส้นตายให้ “กลุ่มโรงงานซุซูกิ” ว่าจะต้องตกลงใจเรื่อง “กลุ่มอิสระ” ด้านในปีต่อไป ชี้ “วิศวกร” อยากได้ข้อมูลที่ได้รับมาจากสนามมากยิ่งกว่าเดิม ออกมาตอกย้ำ

เพื่อการพัฒนา

เดี๋ยวนี้ ซุซูกิ แล้วก็ อพริเลีย เป็นเพียงแค่ 2 กลุ่มผู้สร้างที่ยังไม่มีกลุ่มแซ็ตเทิลไลต์ในกริดสตาร์ทของ โมโตจี ในสมัยโมเดิร์น ซึ่งต่อสู้กันด้วยข้อมูลสำคัญจากการแข่งขันชิงชัย เพื่อนำมาสู่การพัฒนา

ถึงแม้พวกเขาครองแชมป์โลกได้จากผลงานของ โจอัน เมียร์ แต่ว่า ดาวิเด บริวิโอ กลุ่มบอสของ ซูซุกิ โมโตจี กลับสารภาพว่านักบิดเพียงแค่ 2 คนบนกริดสตาร์ท จะน้อยเกินไปสำหรับการเก็บข้อมูลต่างๆอีกต่อไป

จากข้อตกลงของกลุ่มโรงงาน รวมทั้งกลุ่มอิสระจำนวนมากใน โมโตจี จะต่อสัญญาจากฉบับตอนนี้ในตอนปลายปีนี้ กับ ดอร์น่า สปอร์ต ฝ่ายจัดการชิงชัย โดยมีเพียงแต่ เคทีเอ็ม ที่มีข้อตกลงไปถึงตอนปลายปี 2021 ช่วงเวลาที่กลุ่มแซ็ตเทิลไลต์ของ ซูซุกิ ได้โอกาสจะแสดงตัวในปี 2022

ดังนี้ ปัจจุบัน เกรซินี ได้ต่อสัญญากับ ดอร์น่า เพื่อส่งกลุ่มอิสระตรงเวลา 5 ปี ตั้งแต่แมื่อปี 2022-2026 โดยกลุ่มจะแยกทางจาก อพริเลีย ในปี 2022

อย่างไรก็ตาม บริวิโอ้ พูดว่าฝ่ายบริหารของ ซูซุกิ จำเป็นที่จะต้องตกลงใจด้านในเมษายนนี้ เพื่อการพัฒนา ซึ่งเป็น “เส้นตาย” ที่แบรนด์จะสามารถเรียมรถแข่งเพิ่มได้ สำหรับกลุ่มลูกค้าในปี 2022

“เกี่ยวกับกลุ่มแซ็ตเทิลไลต์ พวกเราสนทนาในหัวข้อนี้อย่างมาก หากแม้จากบางมุมมองคุณอาจรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องมีก็ได้ ด้วยเหตุว่าพวกเราพึ่งจะได้แชมป์โลก” บริวิโอ้ ตอบ

“แม้กระนั้นวิศวกรของพวกเราไม่เห็นพ้อง (ที่จะไม่มีกลุ่มอิสระ) เพราะเหตุว่าในสนามแข่งขันพวกเรารู้สึกได้ว่าจำเป็นที่จะต้องได้รับข้อมูลเยอะขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งนักบิดเพียงแต่ 2 คนจากเหตุการณ์เดียวกันนี้ก็น้อยเกินไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลักษณะอากาศไม่เป็นใจและก็พวกเราสามารถลงเก็บข้อมูลจากแทร็กแห้งได้เพียงนิดหน่อย การมีนักบิดมากขึ้นจะช่วยทำให้พวกเรามีข้อมูลมากยิ่งขึ้น” “ด้วยเหตุผลดังกล่าว การมีนักบิดเพียงแต่ 2 คน ก็เลยทำให้พวกเราเก็บข้อมูลได้ยากกว่ากลุ่มผู้สร้างอื่นๆ”

“อย่างที่ผมบอกไป พวกเราในฐานะกลุ่มโรงงานปรารถนาข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็จะต้องมีการแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับมาจากกลุ่มอิสระ แต่ว่าโครงงานนี้ต้องได้รับการยินยอมจากผู้บริหารระดับสูง และก็นี่เป็นสิ่งที่พวกเราดำเนินงานอยู่”

“แม้กระนั้นนั่นแหละนะครับ วัตถุประสงค์ของพวกเราเป็นปี 2022 แม้กระนั้นพวกเราก็จำต้องรีบตกลงใจ ผมกล่าวได้เพียงแค่ว่าน่าจะเคาะได้ก่อน หรืออย่างช้าที่สุดเป็น ด้วยเหตุว่าไม่ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วพวกเราจะไม่ว่างสำหรับการจัดแจงสิ่งต่างๆ”

ย้ำแช่แข็งเครื่องยนต์ เข้าทางป้องแชมป์โลก เผยถึงการ “หยุด” การพัฒนาด้าน “แนวทาง” 

เพื่อการพัฒนา

มาตรการพิเศษในตอน โควิด-19 ถือว่าเอื้อประโยชน์ต่อพวกเขากับภารกิจสำหรับในการคุ้มครองแชมป์โลก โมโตจีพี ในปี 2021 ภายใต้วิกฤติ โควิด-19 ทำให้ โมโตจีพี ออกมาตรการพิเศษเพื่อช่วยทำให้ทุกครั้งมลดงบประมาณในการพัฒนารถแข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เครื่องจักร” ที่จะถูก “แช่แข็ง” ห้ามไม่ให้มีการปรับปรุง โดยทุกครั้งมจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรเดิมไปจวบจนกระทั่งใกล้จะถึงฤดู 2022

แน่ๆว่านี่เป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความลำบากให้กับทุกครั้งม สำหรับเพื่อการยกฐานะประสิทธิภาพของรถแข่งในตอน “วินเทอร์เทสต์” ซึ่งจะมีขึ้นเพียงแค่ 5 ที่ กาตาร์ ภายหลังที่โปรแกรมของ เซปัง ถูกยกเลิกไป ข่าวโมโตจีพีวันนี้

จากมาตรการดังกล่าวข้างต้น ทำให้มั่นใจว่าเป็นงานยากสุดๆที่กลุ่มคู่ปรับอย่าง ฮอนด้า, ยามาฮ่า, ดูคาติ และก็ เคทีเอ็ม จะปรับปรุงรถแข่งขึ้นมาเสมอกันประสิทธิภาพของ ชุซูกิ ได้ในปี 2021 ภายหลังที่พวกเขาบ่งบอกถึงถึงความแข็งแกร่งในปี 2020 จนกระทั่งครอบครองแชมป์โลกมาครอบครองได้เสร็จจากผลงานของ โจอัน เมียร์

อย่างไรก็แล้วแต่ หัวหน้าโปรเจ็กต์ โมโต ของ ชุซูกิ อย่าง ชินอิจิ ซาฮาระ กลับไม่เห็นพ้องกับมุมนี้เท่าไรนัก โดยเขาพูดว่า การแช่แข็งการพัฒนาก็มีผลต่อการยกฐานะบางสิ่งของ ซูซูกิ เหมือนกัน รวมทั้งเป็นการหยุดความคิดใหม่ๆของพวกเขาด้วย แม้ว่าจะสารภาพว่ารถแข่งนั้น “มิได้ชั่วร้ายอะไรก็แล้วแต่”

“ผมขอบอกเลยว่าไม่เห็นพ้อง” ซาฮาระ เปิดเผย “ในมุมของวิศวกร พวกเราชอบมีความคิดใหม่ๆเพื่อทำให้รถแข่งดียิ่งขึ้นเสมอ แต่ว่าโชคดีที่แพ็คเกจรถแข่งของพวกเราในปี 2020 มิได้เลวทรามนัก”

“ฉะนั้น พวกเราจำเป็นจะต้องระแวดระวัง และก็ประณีตบรรจงเป็นพิเศษในการพัฒนาแต่ละจุด ว่าพวกเราสามารถแตะจุดไหนได้บ้าง” ยอดวิศวกรคนญี่ปุ่นเปิดเผย “อย่างไรก็ดี คุณไม่มีทางทราบเลยว่า กฎใหม่ที่จะมีในอนาคต จะกระทบต่อสิ่งต่างๆอย่างไรบ้าง แม้กระนั้นผมรู้สึกว่ามันก็เป็นเหตุการณ์เดียวกับที่ค่ายผู้สร้างทุกรายจะต้องพบ”

“โน่นเป็นมีกฎเดียวสำหรับทุกครั้งม ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี่ก็เลยเป็นอะไรที่ยุติธรรม รวมทั้งเท่าเทียมกันซึ่งพวกเราทุกคนจะต้องจัดแจงให้ดีกับเกมที่วางอยู่บนโต๊ะ” ซาฮาระ กล่าวเสริมว่า “เหมือนกันกับที่พวกเราเคยทำมาแล้วในสมัยก่อน พวกเราต่างก็พากเพียรที่จะปรับแต่งรถแข่งในทุกจุดให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ให้กระทบกับเท่าเทียมของตัวรถโดยรวม”

“ดูเหมือนในปี 2021 พวกเราจำเป็นจะต้องมองหากริดสตาร์ทที่ดียิ่งขึ้น โน่นเป็นการยกฐานะรถแข่งสำหรับในการควอลิฟาย โดยไม่ให้กระทบการบาลานซ์ของตัวรถยนต์เมื่อใช้ในลัษณะของการชิงชัยจริง”

ความสามารถสำหรับการควอลิฟายนับเป็น “ข้อเสีย” ของ ซูซูกิ ที่เห็นได้ชัดในปีที่ล่วงเลยไป โดย ภรรยาร์ มีค่าเฉลี่ยชั้นสตาร์ทเพียงแค่ชั้นที่ 10 แค่นั้นถ้าเฉลี่ยจากทุกเรซตลอดทั้งปี ส่วน อเล็กซ์ รินส์ ก็มีค่าเฉลี่ยอยู่เพียงแค่แถวที่ 2 แค่นั้น แล้วก็รถแข่ง ของพวกเขาก็ไม่อาจจะคว้าโพลได้เลย ดูบอลสด

อย่างไรก็ดี เมียร์ รวมทั้ง รินส์ กลับสามารถพารถแข่ง ซูชุกิ สังสรรค์บนโพเดี้ยมรวมกันได้ถึง 11 ครั้ง โดยเป็นการคว้าแชมป์ 2 กรังด์ปรีซ์ แล้วก็พอเพียงจะก่อให้พวกเขาคว้าชัยชนะโลกมาครอบครอง รวมทั้งชั้น 3 บนแชมเปี้ยนชิพเมื่อจบฤดู

Author: admins