ออกมาตอกย้ำ การพัฒนาด้านเคล็ดวิธี ที่เจ้าตัวออกมาแนะ
ออกมาตอกย้ำ ทางทีม เผยถึงการ “หยุด” ของ โมโต ซึ่งเป็นมาตรการพิเศษในตอน โควิด-19 ถือว่าเอื้อประโยชน์ต่อพวกเขากับภารกิจสำหรับการคุ้มครองป้องกันแชมป์โลก โมโตจีพี ในปี 2021 เพราะเชื่อมั่น
ภายใต้วิกฤติ โควิด-19 นำมาซึ่งการทำให้ โมโต ออกมาตรการพิเศษเพื่อช่วยทำให้ทุกครั้งมลป่าดงบราวๆในการพัฒนารถแข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เครื่องยนต์กลไก” ที่จะถูก “แช่แข็ง” ห้ามไม่ให้มีการปรับปรุง โดยทุกครั้งมจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลเดิมไปจวบจนกระทั่งกำลังจะถึงฤดู 2022
แน่ๆว่านี่เป็นปัจจัยหลักที่สร้างความยุ่งยากให้กับทุกครั้งม สำหรับเพื่อการยกฐานะความสามารถของรถแข่งในตอน ออกมาตอกย้ำ “วินเทอร์เทสต์” ซึ่งจะมีขึ้นเพียงแต่ 5 วันที่ กาตาร์ ภายหลังที่โปรแกรมของ เซปัง ถูกยกเลิกไป
จากมาตรการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ทำให้มั่นใจว่าเป็นงานยากสุดๆที่กลุ่มคู่แข่งขันอย่าง ฮอนด้า, ยามาฮ่า, ดูคาติ และก็ เคทีเอ็ม จะปรับปรุงรถแข่งขึ้นมาเท่ากันประสิทธิภาพของ ซุซูกิ ได้ในปี 2021 ภายหลังที่พวกเขาบอกให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในปี 2020 กระทั่งคว้าชัยชนะโลกมาครอบครองได้เสร็จจากผลงานของ โจอัน
อย่างไรก็แล้วแต่ หัวหน้าโปรเจ็กต์ โมโต ของ ซุซูกิ อย่าง ชินอิจิ ซาฮาระ กลับไม่เห็นพ้องกับมุมนี้เท่าไรนัก โดยเขาพูดว่า การแช่แข็งการพัฒนา ก็มีผลต่อการยกฐานะบางสิ่งของ เหมือนกัน รวมทั้งเป็นการหยุดความคิดใหม่ๆของพวกเขาด้วย แม้ว่าจะสารภาพว่ารถแข่ง จีเอสเอกซ์ อาร์อาร์ ในปี 2020 นั้น “มิได้เลวใดๆ”
“ผมขอบอกเลยว่าไม่เห็นพ้อง” ซาฮาระ เปิดเผย “ในมุมของวิศวกร พวกเราชอบมีความคิดใหม่ๆเพื่อทำให้รถแข่งดียิ่งขึ้นเสมอ แม้กระนั้นโชคดีที่แพ็คเกจรถแข่งของพวกเราในปี 2020 ไม่ได้เลวทรามนัก”
“ด้วยเหตุนั้น พวกเราจำเป็นที่จะต้องระแวดระวัง แล้วก็ละเอียดลออเป็นพิเศษในการพัฒนาแต่ละจุด ว่าพวกเราสามารถสัมผัสจุดไหนได้บ้าง” ยอดวิศวกรคนญี่ปุ่นเปิดเผย
“แต่ คุณไม่มีวันทราบเลยว่ากฎใหม่ที่จะมีในอนาคต จะกระทบต่อสิ่งต่างๆอย่างไรบ้าง แม้กระนั้นผมมีความรู้สึกว่ามันก็เป็นเหตุการณ์เดียวกับที่ค่ายผู้สร้างทุกรายจำเป็นต้องพบ”
“โน่นเป็นมีกฎเดียวสำหรับทุกครั้งม ด้วยเหตุดังกล่าวนี่ก็เลยเป็นอะไรที่เที่ยงธรรม และก็เท่าเทียมกันซึ่งพวกเราทุกคนจำเป็นต้องจัดแจงให้ดีกับเกมที่วางอยู่บนโต๊ะ”
ซาฮาระ กล่าวเสริมว่า “เหมือนกับที่พวกเราเคยทำมาแล้วในอดีตกาล พวกเราต่างก็มานะที่จะปรับปรุงแก้ไขรถแข่งในทุกจุดให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ให้กระทบกับเท่าเทียมของตัวรถโดยรวม”
“ดูท่าในปี 2021 พวกเราจึงควรมองหากริดสตาร์ทที่ดียิ่งขึ้น โน่นเป็นการยกฐานะรถแข่งสำหรับในการควอลิฟาย โดยไม่ให้กระทบการบาลานซ์ของตัวรถยนต์เมื่อใช้เพื่อสำหรับการแข่งจริง”
คุณภาพสำหรับเพื่อการควอลิฟายนับเป็น “ข้อด้อย” ของ ซุซูกิ ที่เห็นได้ชัดในปีที่ล่วงเลยไป โดย มีค่าเฉลี่ยชั้นสตาร์ท เพียงแค่ชั้นที่ 10 เพียงแค่นั้นแม้เฉลี่ยจากทุกเรซตลอดทั้งปี ส่วน อเล็กซ์ รินส์ ก็มีค่าเฉลี่ยอยู่เพียงแต่แถวที่ 2 แค่นั้น และก็รถแข่ง ของพวกเขาก็ไม่อาจจะคว้าโพลได้เลยในปีก่อน ข่าวโมโตจีพีวันนี้
แต่ เมียร์ และก็ รินส์ กลับสามารถพารถแข่ง ซูซุกิ สังสรรค์บนโพเดี้ยมรวมกันได้ถึง 11 ครั้ง โดยเป็นการคว้าแชมป์ 2 กรังด์ปรีซ์ รวมทั้งพอเพียงจะก่อให้พวกเขาคว้าชัยชนะโลกมาครอบครอง รวมทั้งชั้น 3 บนแชมเปี้ยนชิพเมื่อจบฤดู
หนึ่งในที่คาดคะเนถึง ความสามารถที่ไม่เหมือนกัน อย่างเต็มที่ของ ซูซุกิ ในรอบควอลิฟาย แล้วก็ในเรซ เป็นคาแร็กเตอร์ของรถแข่งที่มีต่อยาง โดยมั่นใจว่า มักทำความเร็วได้ดิบได้ดี เมื่อยางนุ่มมากมายเป็นพิเศษ โดยยิ่งไปกว่านั้นใน ตอนกึ่งกลางถึงด้านหลังๆ เรซ แม้กระนั้น ไม่สามารถที่จะรีดสมรรถนะสูงสุด ได้สำหรับในการทำเวลาต่อรอบเ พียงแต่รอบเดียว
ทางด้านของเจ้าตัวนักแข่งนั้น มีความเชื่อในด้านของการใช้ “ซูซูกิ”
ไม่แผ่วถึงแม้ขาด “บริวิโอ้” โจอัน เมียร์ แชป์โลกโมจีพี คนปัจจุบันนี้ มั่นใจว่า กลุ่ม ซูซุกิ เอ็คสตาร์ จะยกฐานะขึ้นได้อีกมากมาย ถึงแม้ ดาวิเด บริวิโอ้ สมัยก่อนกลุ่มบอส จะล่ำลากลุ่มแบบสุดช็อค เพื่อตามหาความท้าในเอฟวันก็ตาม
เมียร์ เห็นด้วยว่าแปลกใจเป็นอย่างมากที่ บริวิโอ้ ตกลงใจล่ำลากลุ่ม เพื่อไปร่วมงานกับ อัลพีน เอฟวัน กลุ่ม ก่อนหน้าที่ โมโตจีพี จะเริ่มในเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม แชมป์โลกคนเดี๋ยวนี้ก็เชื่อถืออย่างยิ่งว่า “กลุ่มโรงงาน” จะมิได้รับผลพวงอะไรก็ตาม จากการแยกทางกับ บริวิโอ้ โดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องความสามารถในสนามของพวกเขา
“มันเป็นเหตุการณ์ที่ ยากมากมายๆด้วยเหตุว่า ดาวิเด เป็นผู้ที่ระบุ แนวทางต่างๆของกลุ่ม แต่ว่าผมก็ไม่กระวนกระวายใจอะไรนะ” “ในทางตรงกันข้าม ผมกลับเชื่อถือเป็นอย่างมาก ผมมั่นใจว่ากลุ่มของพวกเรา จะยังคงสามารถสร้างผลงาน ที่สุดยอดได้เหมือนปกติ เนื่องจากพวกเรา มีพนักงานซึ่งสามารถทำมันได้” ดูบอลสด