อาการล้าที่แขน มาร์คมาร์เกซแชมป์โลกโมโตจีพี 8 ยุคจากเรปโซลฮอนด้า
อาการล้าที่แขน ออกโรงเผยถึง “ความยากแค้น” กับการแข่งขันชิงชัยเรซแรกในรอบ 9 เดือน ชี้ 6 รอบท้ายที่สุด “แค่นั่งบนรถ” ก็ยากแล้ว ย้ำพึงพอใจสุดๆจบเรซปอร์ติเมา ด้วยการตามข้างหลังแชมป์เพียงแต่ 13 วินาที แชมป์โลก 8 ยุค ร้างสนามไปเป็นเวลายาวนานกว่า 9 เดือน จากการบาดเจ็บที่ต้นแขนขวา ซึ่งหักจากการพลาดลุ้นร้ายแรงที่ เฆเรซ ในกรกฎาคมปีที่ล่วงเลยไป ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้กลับมาลงไปในสนามได้เป็นครั้งแรกในสุดสัปดาห์นี้ที่ปอร์ติเมา
เกมในรุ่นใหญ่อย่างโมโตจีพี ชิงชัยทั้งหมด 25 รอบสนาม มาร์คที่มีลักษณะอาการล้าอย่างมากที่ต้นแขนขวาก่อนเริ่มเกม ได้ออกตัวจากกริดที่ 6 และก็เริ่มเกมได้อย่างดุเดือด ขยับขึ้นไปรั้งชั้น 3 ข้างหลังผ่านโค้งแรก แล้วก็ยังคงไล่บดในกรุ๊ปหน้าได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ว่าจากอาการล้าที่แขนนำมาซึ่งการทำให้แชมป์โลกชาวสแปนิชจำเป็นต้องพบปัญหาตลอดทั้งเรซ แต่ว่าสวมหัวใจนักสู้พารถแข่งอาร์ซี213วี ทะยานเข้าป้ายในชั้น 7
มาร์เกซชี้ว่าการแข่งที่ปอร์ติเมา บ่งชี้ถึง “การฟื้นฟูสภาพแบบก้าวกระโจนของเขา” รวมทั้งเห็นด้วยว่าไม่สามารถที่จะ “เก็บอารมณ์” ได้อยู่เมื่อกลับถึงพิตข้างหลังจบเรซ มาร์เกซกล่าวว่าในรอบแรกมันยากมากมาย ด้วยเหตุว่าตัวเองยังไม่มีอยู่ในจุดที่พร้อมที่สุด ซึ่งในตอน 6 รอบในที่สุดเพียงแค่ “นั่งบนรถแข่ง” ก็แทบไม่ไหวแล้ว เพราะว่าแขนของเขาแทบไม่เหลือพลังอยู่เลย “ดูอย่างกับว่ารอบแรกจะเป็นจุดที่ยากที่สุด เพราะว่าผมยังไม่มีอยู่ในจุดที่ดีเยี่ยมที่สุดของตน” เขาเห็นด้วย ข่าวโมโตจีพีวันนี้
“ลองนึกภาพมันอย่างกับเด็กที่เล่นบอลกับผู้ใหญ่, พวกเขา (นักบิดผู้อื่น) แซงผมได้ง่ายมากอย่างที่อยาก ด้วยเหตุนี้ ในรอบแรกผมรู้สึกได้เลยว่าไม่ใช่ที่ของผม ผมไม่มีขีดการต่อสู้ และไม่สามารถควบคุมรถแข่งได้เลย แล้วหลังจากนั้นคนไม่ใช่น้อยก็แซงผ่านผมไป แต่ว่าเมื่อผมเริ่มจะใจเย็นและก็สงบลง มิได้สู้กับคนไหนกันผมก็เริ่มหาตำแหน่งของตนเอง แล้วก็เริ่มที่จะหาจังหวะสำหรับการบิดของตนเองได้พบ เบาๆก้าวไป สเต็ป บาย สเต็ป
ซึ่งผมก็สามารถกดเวลาต่อรอบเร็วที่สุดของตนตรงนี้ได้เสร็จ ในช่วงท้ายเรซ ช่วงท้ายเรซผมกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น รวมทั้งผมก็อุตสาหะไล่หลัง อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร อีกที แม้กระนั้นในช่วงเวลานั้นร่างกายของผมก็เริ่มส่งสัญญาณว่า มันเริ่มเจ็บแล้วนะ 6 รอบท้ายที่สุด ผมทำเป็นเพียงแค่คร่อมอยู่บนรถแข่งแล้วก็อุตสาหะบิดให้จบ แม้กระนั้นสิ่งจำเป็นที่สุดเป็นการจบการแข่งขันชิงชัย
ผมเช็กมองเวลาแล้ว ข้างหลังจบเรซผมตามหลัง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร เพียงแต่ 13 วินาที แน่ๆว่าสิ่งนี้มันโคตรเยี่ยมเลย” นอกนั้น มาร์เกซยังได้รับการปรบมือจากสื่อสถานที่รวมตัวกันสัมภาษณ์ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อซักไซ้ไล่เลียงตัวเอาถึงหัวข้อต่างๆด้วย
อาการล้าที่แขน มาร์เกซกลั้นไม่ไหว! ร้องไห้โฮข้างหลังคัมแบ็กเสร็จราวกับฝัน
อาการล้าที่แขน มาร์คมาร์เกซนักบิดต่างดาวจากเรปโซลฮอนด้า ระเบิดอารมณ์ด้วยการร้องไห้โฮในพิต คัมแบ็กลงบิดในเรซโมโตจีพีครั้งแรกในรอบ 9 เดือน เจ้าตัวรับ “ราวกับฝัน” กระทั่งกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ข้างหลังควบรถแข่งอาร์ซี213วี คว้าชั้น 7 ในศึกโปรตุกีสกรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา
แชมป์โลก 8 ยุค ร้างสนามไปเป็นเวลานานกว่า 9 เดือน จากการบาดเจ็บที่ต้นแขนขวา ซึ่งหักจากการพลาดล้มร้ายแรงที่ เฆเรซ ในกรกฎาคมปีให้หลัง ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้กลับมาลงในสนามได้เป็นครั้งแรกในสุดสัปดาห์นี้ที่ปอร์ติเมา ดูบอลสด
เกมในรุ่นใหญ่อย่างโมโตจีพี แข่งทั้งหมดทั้งปวง 25 รอบสนาม และก็ไฮไลต์ของเรซนี้อยู่ที่การคัมแบ็กของ มาร์คที่มีลักษณะล้าอย่างมากที่ต้นแขนขวาก่อนเริ่มเกม ก่อนที่จะได้ออกตัวจากกริดที่ 6 รวมทั้งเริ่มเกมได้อย่างดุเดือด ขยับขึ้นไปรั้งชั้น 3 ข้างหลังผ่านโค้งแรก และก็ยังคงไล่บดในกรุ๊ปหน้าได้อย่างสม่ำเสมอ
แต่จากอาการล้าที่แขนนำมาซึ่งการทำให้แชมป์โลกชาวสแปนิชจำเป็นต้องพบปัญหาตลอดทั้งเรซ แต่ว่าสวมหัวใจนักสู้พารถแข่งอาร์ซี213วี ทะยานเข้าป้ายในชั้น 7 มาร์เกซชี้ว่าการชิงชัยที่ปอร์ติเมา บ่งชี้ถึง “การฟื้นฟูสภาพแบบก้าวกระโจนของเขา” และก็เห็นด้วยว่าไม่อาจจะ “เก็บอารมณ์” ได้อยู่
เมื่อกลับถึงพิตข้างหลังจบเรซ “แน่ๆว่า อารมณ์ที่ระเบิดออกมาชี้แจงทั้งหมดทุกอย่างก้าวหน้าที่สุด” มาร์เกซกล่าวถึงสิ่งที่เขาทำเป็นในวันนี้ “ธรรมดาผมเป็นผู้ที่ชอบเก็บอารมณ์ไว้ภายใน แม้กระนั้นเมื่อกลับถึงพิตและก็อยู่กับกลุ่มช่างทุกคน ความรู้สึกของผมมันก็ระเบิดออกมา แล้วก็ผมก็ไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมมันได้
มันเป็นตอนที่เป็นเวลานานมาก ที่ผมเฝ้าฝันถึงวันนี้ การแข่งขันให้จบเรซในโมโตจีพี รวมทั้งมันเป็นการฟื้นที่ใหญ่ที่สุดสำหรับร่างกายของผม ผมกลับมามีความรู้สึกว่าตนเองเป็นนักบิดโมโตจีพี ได้อีกรอบ และก็โน่นเป็นเหตุผลที่ผมระเบิดอารมณ์ออกมาในวันนี้
โดยเหตุนี้ เมื่อกลับมาถึงพิตแน่ๆว่าผมพากเพียรอย่างมาก รวมทั้งไม่มีแรงด้วย มันเป็นการคลายอารมณ์ออกมา เพราะว่าผมควบคุมมันไม่อยู่ แม้กระนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ดีเยี่ยม” จบการประลองสนามที่ 3
มาร์เกซกัดฟันบิด! ทราบดีจำเป็นต้อง “ทรมาน” มากมายในวันอาทิตย์
มาร์คมาร์เกซนักบิดต่างดาวจากเรปโซลฮอนด้า สารภาพว่าเขาควรต้อง “ปวด” อย่างมากสำหรับการชิงชัยโมโตจีพี รายการโปรตุกีสกรังด์ปรีซ์ ในวันอาทิตย์อย่างแน่แท้ เนื่องจากว่า “แขนข้างขวา” ของเขามีลักษณะอาการล้าอย่างยิ่งสำหรับในการควอลิฟายเมื่อวันเสาร์ แชมป์โลกโมโตจีพี 6 ยุค พลาดล้มในสนามแรกเมื่อกรกฎาคมปีให้หลัง
โน่นทำให้เขายังไม่สามารถที่จะลงบิดให้จบเรซได้เลย นับจากการประลอง บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ ในปี 2019 มาร์เกซทะลุจากคิว1 ไปสู่คิว2 ได้เสร็จ แต่ว่าเขาเองก็จำเป็นต้องบิดแค่เพียง 5 นาทีท้ายที่สุดเพราะเหตุว่ามีลักษณะล้าที่แขนด้านขวาเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะคว้ากริดที่ 6 มาครอบครอง
โดยมาร์เกซสารภาพว่า “ผมรู้สึกไม่ดีลงในวันเสาร์ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เดาไว้แล้ว แม้กระนั้นโดยรวมก็ออกจะพึงพอใจกับความเชื่อมั่นและมั่นใจเมื่ออยู่บนรถแข่ง รวมทั้งการทำงานเพื่อปรับนิสัยให้กับอาร์ซี213วี รวมทั้งปรับเซ็ตให้กับสิ่งที่จำเป็นของตนเองเยอะขึ้นเรื่อยๆ” นี่เป็นสัญญาณดี
มาร์เกซทำให้เห็นว่าการหา “เรซเพซ” ในรอบเอฟพี4 ยังคงเป็นปริศนาให้กับตัวเขาเองว่า แขนด้านขวานั้นฟื้นได้ดิบได้ดีเพียงใดรวมทั้งจะทนกับการประลองได้ตลอด 25 รอบที่ปอร์ติเมา ได้ไหม “ความมั่นใจและความเชื่อมั่นบนรถแข่งได้รับการปรับแก้เป็นอย่างมากสำหรับผม และก็สำหรับกลุ่มด้วย
พวกเราออกตัวการทำงานตรงนี้ด้วยรู้สึกตัวฐานที่ แบรเดิล และก็ ฮอนด้า สร้างไว้ โดยในรอบเอฟพี1-เอฟพี2-เอฟพี3 ผมบิดด้วยรถแข่งสำหรับในการเซ็ตติ้งอย่างงั้น อีกทั้งเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่แบบเดียวกัน แต่ว่าข้างหลังจบเอฟพี3 ผมบอกกับตนเองว่า โอเคย์…
ในขณะนี้ผมพร้อมแล้วที่จะพากเพียรทดสอบอะไรบางอย่าง แล้วก็พวกเราก็เริ่มจะเปลี่ยนแปลงรถแข่งให้กับสไตล์การบิดของผม มันมิได้มีอะไรที่เปลี่ยนเท่าไรนักแม้เทียบกับนักบิดฮอนด้าคนอื่นแม้กระนั้นเป็นการเบาๆปรับให้เข้าสไตล์การบิดของผม ซึ่งโน่นเป็นสิ่งที่ผมจำต้องทำขณะนี้
แล้วก็แน่ๆว่าพวกเราเริ่มมีการดำเนินการแบบก้าวกระโจนในรอบเอฟพี4 แล้วในรอบควอลิฟายผมก็สามารถที่จะเริ่มทำความเร็วได้ แต่ว่าปัญหาที่ผุดขึ้นในหัวเป็น ในวันอาทิตย์กับการแข่งขันชิงชัย 25 รอบสนาม ซึ่งมันยาวมากมาย ผมจะบากบั่นบอกตนเองให้สนุกสนานกับมัน แม้ว่าก็รู้ว่าจะไม่อาจจะบันเทิงใจกับมันได้แน่ๆ ผมจำเป็นต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บ แม้กระนั้นมันจะต้องเป็นแบบงั้นอยู่แล้ว พวกเราทราบเหตุการณ์นี้ก่อนเดินทางมาที่ปอร์ติเมา ด้วย แล้วก็ในขณะนี้พวกเราก็อยู่ในเหตุการณ์ครึ่งๆกลางๆกับแขนข้างขวาของผม”
