แฟนช็อก “มาร์ค มาร์เกซ” คว่ำกระดูกหัก สนามแรกโมโตจีพี

แฟนช็อก การประลองรถเครื่องทางเรียบชิงชนะเลิศโลก โมโตจีพี สนามแรก “สแปนิช กรังด์ปรีซ์”

แฟนช็อก ที่เฆเรซ ประเทศสเปน ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดชาวประเทศฝรั่งเศสจากกลุ่ม “ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์หน” ได้แชมป์ได้เป็นครั้งแรก ส่วน “มาร์ค มาร์เกซ” ล้มคะมำกระทั่งกระดูกแขนหัก จะต้องผ่าตัดด่วน การแข่งขันชิงชัยรถเครื่องทางเรียบชิงชนะเลิศโลก โมโตจีพี แข่งตอนวันที่ 19 ก.ค.ก่อนหน้านี้ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นี่ออกสจาร์จาก

ตำแหน่งโพล สร้างผลงานยอดเยี่ยม บิดเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรก ครอบครองแชมป์ในเรซแรกไปครอบครองอย่างมากใหญ่ ด้วยเวลา 41 นาที 23.796 วินาที ส่วนชั้นที่ สองเป็นของ มาเวริค บีญาเลส นักบิดสแปนิชจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ด้วยเวลา 4.603 วินาที ส่วนชั้นที่ 3 เป็นของ อันเดรีย โดวิสิโอโซ นักบิดจากกลุ่มมองติดอยู่ว่ากล่าวส่วน มาร์ค มาร์เกซ ข่าวโมโตจีพีวันนี้

แชมป์โลกชาวประเทศสเปน ที่ล้มในสนามนี้ถึงสองครั้ง แต่ว่าครั้งลำดับที่สองเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บอย่างมาก แล้วก็ผลสแกนให้ละเอียด ปรากฏว่า มีกระดูกรอบๆแขนหัก จะต้องบินไปผ่าตัดด่วนที่เมืองบาร์เซโลน่า แล้วก็คงจะจำต้องหยุดไม่มีกำหนด ดังนี้ การแข่งขันชิงชัยโมโตจีพี สนามถัดไป จะมีขึ้นที่สนาม เซอร์กิโต เดอ เฆเรซ ประเทศสเปนอีกรอบใน

ระหว่างวันที่ 24-26 เดือนกรกฎาคม นี้ ในโลกที่การแข่งขันชิงชัยความเร็วนั้น “ฟอร์มูล่า 1” หรือรถยนต์สูตรหนึ่ง บางครั้งอาจจะเป็นลำดับแรกๆ ด้วยความเร็วสูงสุดซึ่งสามารถทำเป็นถึง 233 ไมล์/ชั่วโมง หรือราวๆ 375 กิโล/ชั่วโมง แม้กระนั้นถ้าเกิดวัดกันเพียงแค่แวดวงรถยนต์สองล้อหรือจักรยานยนต์ แน่ๆว่าตำแหน่งราชาจะต้องเป็นของ “โมโตจีพี”

ซึ่งสามารถบิดหมดปลอกได้เร็วถึง 221 ไมล์/ชั่วโมง หรือราวๆ 356 กม./ชั่วโมง (อันเดร โดวิสิโอโซ่ เคยทำเอาไว้ในการประลอง ที่สนาม มูเจลโล่ ปี 2018) การจะประดิษฐ์จักรยานยนต์ซึ่งสามารถทำความเร็วได้ขนาดนี้ แน่ๆว่าจำเป็นต้องใช้จำนวนเงินเป็นอันมาก แต่ว่าบ่อยมากที่พวกเรานั่งมองถ่ายทอดสดการประลองโมโตจีพี แล้วมองเห็นนักขับพลาดท่าล้ม

คว่ำกระเด็นกระเด้งไปคนละทิศคนละทาง ก็เลยเป็นต้นเหตุของปัญหาเริ่มต้นบทความในคราวนี้ว่า จักรยานยนต์ระดับที่ถือว่าสูงอย่างโมโตจีพีนั้น การล้มแต่ละครั้งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากแค่ไหนเพื่อซ่อมบำรุงให้มันกลับมาดังเดิม ก่อนที่จะไปถึงคำตอบของปัญหาสำคัญ พวกเรามาเพิ่มวิชาความรู้กันก่อนดีมากกว่า ว่าที่เรียกกันเคยปากว่าโมโตจีพีนั้น

ตามที่เป็นจริงแล้วความหมายของมันเป็นอย่างไรกันแน่คำว่า โมโตจีพี นั้นสื่อความหมายอยู่ 2 ความหมาย

โดยความหมายแรกเป็นเป็นชื่อเรียกของการแข่งขันชิงชัยรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นผู้จัดการชิงชัย รวมทั้งเริ่มจัดการมาตั้งแต่ปี 1949 การประลองนี้มีชื่อเรียกว่า หรือเรียกสั้นๆว่า โมโตจีพี รุ่นเล็กสุดของการประลอง ใช้รถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์กลไก 4 จังหวะ ขนาด 250 ซีซี 1 ดูด แรงม้าไม่เกิน 55 แรงม้า รายการนี้เป็นรายการ

สำหรับคนเริ่มต้น โดยนักแข่งขันที่ร่วมควรมีอายุไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 16 ปี แต่ว่าไม่เกิน 28 ปี แล้วก็สำหรับคนที่เข้ามาแข่งขันหนแรกอายุจะต้องไม่เกิน 25 ปี ซึ่งกลุ่มต่างๆจะเช่ารถยนต์ที่ผู้สร้างค่ายต่างๆสร้างไว้มาทำชิงชัย โดยตอนนี้มีรถยนต์จากค่าย (ใช้รถยนต์ที่สร้างโดย KTM บริษัทแม่ แม้กระนั้นสำหรับจักรยานยนต์ที่ใช้สำหรับในการชิงชัย

ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งสามารถทำความเร็วได้มากกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วๆไปที่เห็นตามถนนได้ถึง 3-4 เท่าตัว แน่ๆว่าราคาของมันจะต้องแพงแพรวพราวอย่างแน่นอน ทำการตลาดแยกแบรนด์กัน) เป็นการชิงชัยรุ่นกึ่งกลาง โดยกฎสำคัญของรุ่นนี้ที่ไม่เหมือนกับรุ่นอื่นเป็น รถยนต์ทุกคันจึงควรใช้เครื่องจักรกลเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ใช้เครื่องยนต์กลไก 4 จังหวะ ดาวดังพร้อมหน้า

3 ดูด 765 ซีซี จากค่าย Triumph แรงม้าไม่เกิน 140 แรงม้า (ในอดีตกาลใช้เครื่องจักรกล Honda 4 ดูด 600 ซีซี) แม้กระนั้นอนุญาตให้โมดิฟายแชสซี (โครงรถยนต์) ได้ไม่จำกัด ทำให้แต่ละกลุ่มก็จะไปเช่าแชสซีของผู้สร้างที่สร้างเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยปัจจุบันนี้มีค่ายและก็ที่เป็นผู้สร้างตัวรถยนต์ให้ ความหมายลำดับที่สองของคำว่าโมโตจีพี

เป็นรุ่นการแข่งขันชิงชัยสุดชั่วร้ายแล้วก็ใหญ่ที่สุด ที่มีนักแข่งขันระดับซาตานจำนวนมากอยู่ในรุ่นนี้ ใช้จักรยานยนต์เครื่องจักรกล 4 จังหวะ ขนาด 1,000 ซีซี 4 ดูด ซึ่งจะเป็นแบบแถวเรียงหรือดูดวี ก็ได้ แรงม้าจะอยู่ที่ 260 แรงม้า ตอนนี้การแข่งขันชิงชัยโมโตจีพีนั้นจะแบ่งเป็นฤดูตามปฏิทิน แต่ละสนามจะมีคะแนนสะสมเฉพาะ 15 ขั้นตอนแรกที่เข้าเส้นชัย

แชมป์ได้ 25 คะแนน ลดหลั่นกันไปจนกระทั่งชั้น 15 ได้ 1 คะแนน โดยนักแข่งขันจำเป็นต้องทำแต้มสะสมจากการประลองทุกสนามในช่วงฤดูกาลรวมกันให้เยอะที่สุด เพื่อเปลี่ยนเป็นผู้ชนะหรือแชมป์ในช่วงฤดูกาลนั้นๆนอกเหนือจากนั้นยังมีการแข่งในจำพวกกลุ่ม (แต่ละกลุ่มจะส่งรถแข่งได้ไม่เกิน 2 คัน นับคะแนนเฉพาะคนที่จบ 15 ลำดับแรกเหมือนกับนักแข่งขัน)

และก็จำพวกผู้สร้าง (นับคะแนนเฉพาะรถแข่งคันแรกจากค่ายต่างๆที่ทำผลงานดีสุด อิงจาก 15 ขั้นแรกของแต่ละสนามเหมือนกัน) อีกด้วย เอาละ ขอจบบทเรียน Mสำหรับจักรยานยนต์ที่ใช้เพื่อการชิงชัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งสามารถทำความเร็วได้มากกว่าจักรยานยนต์ทั่วๆไปที่เห็นตามถนนได้ถึง 3-4 เท่าตัว แน่ๆว่าราคาของมันจะต้องแพง ดูบอลสด

อย่างแน่นอน แฟนช็อก สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้เพื่อการแข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แล้วก็สามารถทำความเร็วได้มากกว่าจักรยานยนต์ทั่วๆไปที่เห็นตามถนนได้ถึง 3-4 เท่าตัว แน่ๆว่าราคาของมันจะต้องแพงแพรวพราวอย่างแน่นอน otoGP 101 ไว้เพียงเท่านี้ สำหรับมือใหม่ในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตอาจเพียงพอเห็นภาพแล้วว่าโมโตจีพีคืออะไร แต่ว่าสาระสำคัญ

ของพวกเราในคราวนี้มิได้มาเล่าถึงการแข่งขันชิงชัย แม้กระนั้นตัวจักรยานยนต์รุ่นโมโตจีพีต่างหากล่ะเป็นสาระสำคัญ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เพื่อสำหรับการแข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แล้วก็สามารถทำความเร็วได้มากกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วๆไปที่เห็นตามถนนได้ถึง 3-4 เท่าตัว แน่ๆว่าราคาของมันจำต้องแพงพราวแพรวอย่างแน่นอน “ด้วยความปราณีต

ที่จำต้องใช้งานความสามารถชั้นสูงสำหรับการทำ แล้วก็อาจมีเพียงแค่คันเดียวในโลก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการใช้เทคโนโลยีมากที่สุดในเท่าที่อุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์จะมีในเวลานั้น ฉะนั้นรถยนต์โมโตจีพีแต่ละคันก็เลยราคาแพงสูง” โทมัส จูมัน ผู้ประกาศติดต่อประสานงานของ Ducati Motor กล่าวกับ แล้วราคาแพงที่ว่ามันมากแค่ไหนกันล่ะ?

คำตอบเป็นโดยประมาณคันละ 2-3 ล้านยูโร (โดยประมาณ 80-120 ล้านบาท) โดยจะแบ่งได้ 2 จำพวกเป็น โมโตจีพีของกลุ่มอิสระ หรือ แซทเทิลไลท์ (Satellite) และก็โมโตจีพีของกลุ่มโรงงาน โดยกลุ่มแซทเทิลไลท์นั้นพวกเขาจะไม่มีรถยนต์เป็นของตนเอง แม้กระนั้นจะใช้กระบวนการเช่ารถยนต์มาจากค่ายผู้สร้างต่างๆโดยค่าใช้จ่ายในการเช่า

แฟนช็อก เพื่อใช้สำหรับเพื่อการชิงชัย 1 ฤดูนั้นจะอยู่ที่ราวคันละ 2 ล้านยูโร ซึ่งปกติ กลุ่มแซทเทิลไลท์จะได้รถยนต์ปีเก่าจากกลุ่มโรงงานมาใช้แต่ง แต่ว่าถ้าเกิดนักแข่งขันในกลุ่มทำผลงานก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ ค่ายผู้สร้าง ก็จะส่งรถยนต์ปีปัจจุบันนี้ที่กลุ่มโรงงานใช้มาให้นักแข่งขันคนนั้นขี่ หรืออาจะมีการดีลกับกลุ่มโรงงานเป็นกรณีไป ส่วนกลุ่มโรงงาน

ชี้แจงให้รู้เรื่องโดยง่ายเป็นกลุ่มการแข่งขันชิงชัยที่ตั้งโดยแบรนด์รถยนต์ต่างๆที่มีกำลังการผลิตเป็นของตนเองอยู่แล้ว โดยตอนนี้มี 6 ค่าย มี ที่ผลิตรถยนต์ของตนขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับในการชิงชัย ซึ่งงบประมาณสำหรับเพื่อการผลิตโมโตจีพีหนึ่งคันนั้นจะอยู่ที่ราว 3 ล้านยูโร โดยแบ่งได้ส่วนๆดังต่อไปนี้ แฟนช็อก