เครียดมากยิ่งกว่า โจอันเมียร์แชมป์โลกโมโตจีพี ชาวสแปนิชจากกลุ่มซูซูกิเอ็คสตาร์
เครียดมากยิ่งกว่า ออกโรงเปิดเผยว่ายังอาจประสบพบเจอกับปัญหาอย่างมากกับ “การควอลิฟาย” ชี้จำเป็นต้องบิดแบบฝ่าฝืนธรรมชาติภายใต้รถแข่งจีเอสเอ็กซ์-อาร์อาร์ เพื่อคาดคั้นหาเวลาต่อรอบ การหาเวลาต่อรอบแบบ “ไทม์ แอ็ทแท็ค” ไม่เคยเป็นลักษณะเด่นของซูซูกิ นับจากพวกเขาคัมแบ็กสู่โมโตจีพี
โดย เมียร์นับเป็นแชมป์โลกคนแรกในรอบ 31 ปี ต่อจาก เวย์น เรนนีย์ ที่ได้แชมป์โลกโดยไม่มีตำแหน่งโพลซูซูกิ คว้าโพลได้เพียงแค่ครั้งเดียวนับจากคัมแบ็กสู่โมโตจีพี ในปี 2015 จากการบิดของอเล็กซ์เอสปาร์กาโร ในศึก คาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ซึ่งในเวลานั้นเขาได้ออกสตาร์ทจากแถวหน้าแบบ 1-2 ใกล้เคียง มาเวริค บีญาเลส
สำหรับเพื่อการชิงชัยที่กาตาร์ ทั้งยัง 2 สนาม เมียร์ไม่สามารถที่จะผ่านไปสู่รอบคิว2 ได้แบบอัตโนมัติ เหตุเพราะเวลารวมในรอบฝึกที่ตกต่ำ ก่อนที่จะมาแก้ตัวได้รวมทั้งทำเป็นเหมาะสมที่สุดเพียงแต่คว้ากริดที่ 10 แล้วก็ 9 จากทั้งคู่เรซ “พวกเรายังมีงานหนักจะต้องทำ” ข่าวโมโตจีพีวันนี้
เมียร์เอ่ยถึงปัญหาในรอบควอลิฟายของซูซูกิ “พวกเราอยู่ห่างจากแถวหน้าแต่ว่าก็กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยแล้วก็พวกเราทราบดีว่าจำต้องปรับแก้จุดไหน เนื่องจากมันยากมากมายๆสำหรับผมสำหรับเพื่อการหาเวลาต่อรอบ ผมจำเป็นต้องขี่ในสไตล์ที่ต่างกันออกไป และก็โน่นไม่ใช่ธรรมชาติของตัวผมเลย กับการคาดคั้นหาเวลาต่อรอบ” เมียร์กล่าว
หากว่า เมียร์จะได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 10 แม้กระนั้นเขาก็ขึ้นมาต่อสู้ลุ้นชั้น 2 ได้ในเรซแรก ก่อนโดนไม่ยอมรับโดยสองนักบิดมองค้างว่ากล่าว กระทั่งหล่นลงไปจบเรซในชั้น 4 แล้วก็คว้าชั้น 7 ในเรซที่ 2 ด้วยคาแร็กเตอร์ของ แชสซีส์ซูซูกิ ทำให้ เมียร์รวมทั้ง อเล็กซ์ รินส์ ไม่สามารถที่จะจะคาดคั้นขณะที่ดีได้ในรอบควอลิฟาย
แม้กระนั้นพวกเขาก็ยังคงยืนกรานว่า “การปรับปรุงแก้ไขผลควอิฟาย เป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นที่จำต้องรีบไขปัญหา ผมจะมีความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจและก็เครียดมากยิ่งกว่าธรรมดาในวันเสาร์ มันมากยิ่งกว่าในวันอาทิตย์เสียอีก” เมียร์เห็นด้วย “มันเป็นสิ่งที่พวกเราจำต้องรีบปรับแต่ง ด้วยเหตุว่าไม่ใช่เครื่องธรรมดาเลยที่เวลาต่อรอบของพวกเราห่างจากคู่ปรับขนาดนั้น สุดท้ายถ้าเกิดคุณมองจาก “เรซเพซ” พวกเราชอบทำก้าวหน้าเสมอ และก็อยู่ในแนวทางที่ดี
แม้กระนั้นสิ่งที่แตกต่างจากปกติเป็น คู่ปรับของพวกเราจะสามารถปรับปรุงแก้ไขเวลาต่อรอบได้ 1 วินาที หรือ 1 วินาทีครึ่งในรอบควอลิฟาย ธรรมดาแล้วผมเป็นมีสไตลด์ที่ดุเดือดมากมาย และก็โดยธรรมดาการจะหา ฟลายอิ้ง แล็ป นักบิดจำเป็นที่จะต้องดุเดือดเสมอ คุณจึงควรคาดคั้นหนักๆและก็ช่วงท้ายคุณจำเป็นต้องเบรกแบบชั่วร้ายๆแล้วก็โน่นเป็นสิ่งที่ผมเป็น แต่ว่าสำหรับรถแข่งคันนี้ คุณจำเป็นต้องนุ่มนวลกับมัน แล้วก็บิดด้วยความบรรเทาสุดๆ”
เครียดมากยิ่งกว่า เมียร์จวก “มิลเลอร์” ตั้งใจผิดกติกาสุดอันตราย โดฮา จีพี
เครียดมากยิ่งกว่า โจอันเมียร์แชมป์โลกโมโตจีพีจากกลุ่มซูซูกิเอ็คสตาร์ ออกโรงจวกแจ็คมิลเลอร์นักบิดออสซี่จาก ดูคาติ เลโนโว กลุ่ม ว่าตั้งใจเล่นผิดกติกา “สุดอันตราย” ในจังหวะบี้กันที่ โดฮา กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 2 ของโมโตจีพี เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ ชี้ “ไม่มีความเคารพนับถือ” ต่อนักบิดผู้อื่น
เมียร์แซงแบบ “นิสัยเสีย” ใส่ มิลเลอร์ในโค้ง 10 ของรอบที่ 13 ซึ่งมีจังหวะปะทะกันกระทั่งนักบิดออสซี่เสียหลัก ในศึก โดฮา กรังด์ปรีซ์ ซึ่งได้ผลสำเร็จจากที่พวกเขาแข่งขันกันอย่างมากเพื่อชิงชั้น 5 อย่างไรก็แล้วแต่ ทั้งสองปะทะกันอีกทีในตอน “ทางตรงหลัก” ภายหลังเรื่องแรกเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ
ซึ่งหลังจากนั้น “เรซ ไดเร็กเตอร์” วินิจฉัยว่าเป็น “เหตุที่เกิดขึ้นได้สำหรับในการชิงชัย” เพราะเหตุว่าไม่มีอะไรกระทบต่อเรซ เมียร์ออกโรงแสดงอารมณ์ความรู้สึกว่า มิลเลอร์ตั้งใจกระทบกระทั่งเวลาที่ทราบดีว่า “ตัวเอง” อยู่ในจุดไหน พร้อมด้วย “ตั้งเรื่องที่น่าสงสัย” กับการวินิจฉัยของ “สจ๊วต” ที่ไม่มีการลงอาญาใดๆก็ตามกับนักบิดออสซี่ ดูบอลสด
“สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับแจ็ค ในโค้ง 10 น่ะหรอ มันก็แค่จุดที่ผมแซง แล้วก็ผมอยู่ในตำแหน่งที่ถูก” เมียร์เอ๋ยถึงจังหวะแรกที่ตนแซงและก็ชนกับล้อหลังของ มิลเลอร์“แม้กระนั้นต่อจากนั้นเขา (มิลเลอร์) ตกลงใจจะอยู่ที่ไลน์นอก เพื่อจะบานออกข้างนอก พวกเราสัมผัสกันนิดเดียว ต่อจากนั้นผมรีบดึงรถยนต์กลับขึ้นมา มันราวกับเป็นการเปิดศึกที่ผมเข้าใจในเรื่องการเสี่ยงดี
แม้กระนั้นมันก็มิได้เกินลิมิต ผมมีความคิดว่ามันยังโอเคอยู่ รวมทั้งผมก็รีบขยับขาเพื่อแสดงการขออภัยเนื่องจากว่าผมหลีกเลี่ยงจังหวะนั้นมิได้จริงๆแต่ต่อไปในรอบเดียวกัน ผมบานในโค้งสุดท้าย รวมทั้งเมื่อกลับไปสู่ไลน์ผมมองเห็นแจ็ค เขาพุ่งมาโดยที่ก็มองเห็นผมอยู่นั่น ผมจำต้องเดินหน้าไปบน เคิร์บ และก็เขาก็ตรงมาหาผมจนกระทั่งพวกเราชนกัน
พวกเราชนกันที่ทางตรง เพราะฉะนั้นผมรู้สึกว่ามันเสี่ยงมากมาย รวมทั้งเป็นการปะทะที่โคตรอันตราย ผมมีความรู้สึกว่าเขาตั้งอกตั้งใจทำแบบงั้น ถ้าคุณได้มองเห็นรวมทั้งเปรียบจังหวะของอเล็กซ์เอสปาร์กาโร กับผม รวมทั้งจังหวะของแจ็ค กับผม เขาวิ่งบานออกมาในโค้งสุดท้าย
เขามองเห็นผมบิดมาเขาก็อยู่ในไลน์นอก รวมทั้งผมก็ไม่ชนเขาเพราะว่าผมยกย่องแล้วก็ให้เกียรติเขา และก็ผมรู้สึกว่าแจ็ค ไม่เคารพนับถือบุคคลอื่นในจังหวะนี้ มันเป็นกรณีเดียวกัน แต่เพียงเป็นนักบิดที่ต่างกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว คุณสามารถจะสร้างความชอบธรรมได้”
เมียร์ย้ำจะต้องปรับแก้กริดและก็การออกตัวใหม่ ถ้าหากปรารถนาชนะ
โจอันเมียร์แชมป์โลกชาวสแปนิชจากกลุ่มซูซูกิเอ็คสตาร์ เปิดเผยว่าจำเป็นจะต้องแปลงแผนดำเนินงานรอบ “ควอลิฟาย” รวมทั้ง “ออกสตาร์ท” ใหม่ เพื่อสร้างช่องทางมากยิ่งกว่าเดิมสำหรับการลุ้นความมีชัยโมโตจีพี สนาม 2 โดฮา จีพี ชี้เรซ 2 ในสนามเดิมชอบเข้าทางซูซูกิ เสมอ เมียร์จำเป็นต้องปวดศรีษะอย่างมากในสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำงานในวันศุกร์ แล้วก็เสาร์ ก่อนที่จะพบว่า “เซ็ตติ้ง” ที่คณะทำงานใช้กับรถแข่งใหม่ กลายเป็น “เซ็ตติ้งเดิม” ของปีให้หลัง โดยพวกเขากลับมาหา “เรซเพซ” ที่ดีได้อีกรอบในตอน “วอร์มอัพ” ในตอนเวลาเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งนับเป็นเลิศใน “กุญแจ” สำคัญที่ทำให้ เมียร์ไต่จากกริดที่ 10 ขึ้นมาลุ้นโพเดี้ยมได้อย่างสุดสนุก ก่อนที่จะจบเรซในชั้น 4
เมียร์แถลงการณ์ในการลงข่าวขิองศึก ทิสโซต์ โดฮา กรังด์ปรีซ์เมื่อวานนี้ว่า “มันเป็นวีคเอนด์ที่ยากสุดๆเนื่องจากว่าผมไม่สามารถที่จะหาฟีลลิ่งที่ดีได้เลยกับข้างหน้าของรถยนต์ ผมประสบปัญหามากไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งมันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างยากไปหมด โชคดีที่พวกเรากลับมาพบบางอย่างที่น่าดึงดูดอีกรอบในรอบ วอร์มอัพ และก็เรียกฟีลลิ่งดีๆกลับมาได้ นั่นทำให้ผมสามารถมีเรซที่ดีได้
การออกสตาร์ทมิได้จัดว่ายอดเยี่ยม แต่ว่าผมก็เริ่มจะกู้คืนชั้น แล้วก็แซงคู่ปรับได้เมื่อผ่านกลางทางของเรซ หลังจากนั้นในรอบท้ายที่สุดผมบากบั่นจะจัดแจงทุกๆอย่างให้เหมาะสมที่สุดเท่าที่ทำเป็น เป็นการแซง เป็คหรูหรา แล้วก็ โยฮันน์ นั่นเป็นแผนของผม…การแซงในเซ็คเตอร์ท้ายที่สุด อาการล้าที่แขน
แม้กระนั้นผมก็มาพลาดเล็กน้อยโดยบานออกไปที่โค้งสุด้านหลัง จากที่มีความรู้สึกว่าคงจะจบที่ชั้น 2 ผมวางเป้าที่จะแปลงรูปแบบการทำงานให้ดียิ่งขึ้นสำหรับในการควอลิฟาย หรือรอบแรกของการแข่งขันชิงชัย แน่ๆว่าพวกเราหนักแน่นมากมายในตอนช่วงหลังของเรซ แม้กระนั้นก็มีระยะห่างจากพวกเขาเยอะพอสมควรกว่าจะไล่ได้ทัน
รวมทั้งพวกเราจะต้องใช้ยางมากยิ่งกว่าธรรมดา นั่นแหละนะครับเป็นสิ่งที่ผมจำต้องทำเมื่อเรซก่อนหน้าที่ผ่านมา มันสำคัญมากที่จะจำเป็นต้องออกตัวจากกรุ๊ปหน้า และก็บริหารเรซไปพร้อมๆกับพวกเขา หลังจากนั้นค่อยมาดูกันในรอบในที่สุดว่าพวกเราจะอยู่ที่ไหน
ด้วยเหตุนี้ นี่เป็นเป้าหมายหลักของพวกเรานะครับ” เมียร์กล่าว เมื่อถูกถามคำถามว่าคิดยังไงกับรถแข่งซูซูกิ ที่ยังคงหนักแน่นที่สุดคันหนึ่ง หากแม้ในปีให้หลังจะมิได้ลงแข่งขันที่กาตาร์ เมียร์พูดว่า “มันก็จริงครับ…แต่ว่าพวกเรายังคงจำเป็นต้องทำงานมากเพื่อปรับแต่งรถแข่งของพวกเรา