เจ้าความเร็ว แห่งโลก 2 ล้อ ล้มกาลครั้งหนึ่งเสียค่าซ่อมมากแค่ไหน?

เจ้าความเร็ว

เจ้าความเร็ว ในโลกที่การแข่งขันชิงชัยความเร็วนั้น “ฟอร์มูล่า 1” หรือรถยนต์สูตรหนึ่ง บางครั้งก็อาจจะเป็นลำดับต้นๆ

เจ้าความเร็ว ด้วยความเร็วสูงสุดซึ่งสามารถทำเป็นถึง 233 ไมล์/ชั่วโมง หรือประมาณ 375 กิโล/ชั่วโมง แต่ว่าหากวัดกันเพียงแค่แวดวงรถยนต์สองล้อหรือรถมอเตอร์ไซค์ แน่ๆว่าตำแหน่งราชาจะต้องเป็นของ “โมโตจีพี” ซึ่งสามารถบิดหมดปลอกได้เร็วถึง 221 ไมล์/ชั่วโมง หรือราวๆ 356 กิโล/ชั่วโมง

การจะประดิษฐ์รถมอเตอร์ไซค์ซึ่งสามารถทำความเร็วได้ขนาดนี้ แน่ๆว่าจะต้องใช้จำนวนเงินมากมาย แม้กระนั้นหลายครั้งที่พวกเรานั่งมองถ่ายทอดสดการประลองโมโตจีพี แล้วมองเห็นนักขับพลาดท่าล้ม คว่ำกระเด็นเด้งไปคนละทิศคนละทาง

เจ้าความเร็ว

ก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นต้นบทความในคราวนี้ว่า จักรยานยนต์ระดับที่ถือว่าสูงอย่างโมโตจีพีนั้น การล้มแต่ละครั้งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะแค่ไหนเพื่อซ่อมให้มันกลับมาอย่างเดิม ข่าวโมโตจีพีวันนี้

ก่อนที่จะไปถึงคำตอบของปริศนาสำคัญ พวกเรามาเพิ่มวิชาความรู้กันก่อนดียิ่งกว่า ว่าที่เรียกกันเคยปากว่าโมโตจีพีนั้น โดยความเป็นจริงแล้วความหมายของมันเป็นยังไงกันแน่

เป็นการแข่งรุ่นกลาง โดยกฎสำคัญของรุ่นนี้ที่ต่างจากรุ่นอื่นเป็น รถยนต์ทุกคันต้องใช้เครื่องยนต์กลไกแบบเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 3 สูบ 765 ซีซี จากค่าย Triumph แรงม้าไม่เกิน 140 แรงม้า

แม้กระนั้นอนุญาตให้โมดิฟายแชสซี (โครงรถยนต์) ได้ไม่จำกัด ทำให้แต่ละกลุ่มก็จะไปเช่าแชสซีของผู้สร้างที่สร้างเพื่อรุ่นนี้โดยยิ่งไปกว่านั้น

ความหมายลำดับที่สองของคำว่าโมโตจีพี เป็นรุ่นการแข่งขันชิงชัยสุดโหดเหี้ยมแล้วก็ใหญ่ที่สุด ที่มีนักแข่งขันระดับอสุรกายมากมายก่ายกองอยู่ในรุ่นนี้ ใช้จักรยานยนต์เครื่องจักรกล 4 จังหวะ ขนาด 1,000 ซีซี 4 สูบ ซึ่งจะเป็นแบบแถวเรียง (Inline) หรือสูบวี ก็ได้ แรงม้าจะอยู่ที่ 260 แรงม้า

ปัจจุบันนี้การแข่งขันชิงชัยโมโตจีพีนั้นจะแบ่งเป็นฤดูตามปฏิทิน แต่ละสนามจะมีคะแนนสะสมเฉพาะ 15 ขั้นแรกที่เข้าเส้นชัย แชมป์ได้ 25 คะแนน ลดหลั่นกันไปจนกระทั่งชั้น 15 ได้ 1 คะแนน โดยนักแข่งขันจำต้องทำสกอร์สะสมจากการแข่งขันชิงชัยทุกสนามในช่วงฤดูกาลรวมกันให้สูงที่สุด ความแตกต่าง

เพื่อจะเปลี่ยนเป็นผู้ชนะหรือแชมป์ในช่วงฤดูกาลนั้นๆนอกนั้นยังมีการแข่งในชนิดกลุ่ม (แต่ละกลุ่มจะส่งรถแข่งได้ไม่เกิน 2 คัน นับคะแนนเฉพาะคนที่จบ 15 ขั้นตอนแรกเหมือนกับนักแข่งขัน) แล้วก็จำพวกผู้สร้าง (นับคะแนนเฉพาะรถแข่งคันแรกจากค่ายต่างๆที่ทำผลงานดีสุด อิงจาก 15 ลำดับแรกของแต่ละสนามเหมือนกัน) อีกด้วย

เจ้าความเร็ว

เอาละ ขอจบบทเรียน MotoGP 101 ไว้เพียงเท่านี้ สำหรับมือใหม่ในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตอาจจะพอเพียงเห็นภาพแล้วว่าโมโตจีพีคืออะไร แม้กระนั้นสาระสำคัญของพวกเราในคราวนี้มิได้มาเล่าถึงการประลอง แม้กระนั้นตัวจักรยานยนต์รุ่นโมโตจีพีต่างหากล่ะเป็นสาระสำคัญ

สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้เพื่อการชิงชัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และก็สามารถทำความเร็วได้มากกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วๆไปที่เห็นตามถนนได้ถึง 3-4 เท่าตัว แน่ๆว่าราคาของมันจำเป็นต้องแพงพราวแพรวอย่างแน่นอน https://manatwork.info/

แล้วราคาแพงที่ว่ามันเยอะแค่ไหนกันล่ะ? คำตอบเป็นราวคันละ 2-3 ล้านยูโร (ราว 80-120 ล้านบาท) โดยจะแบ่งได้เป็น 2 จำพวกเป็น โมโตจีพีของกลุ่มอิสระ หรือ แซทเทิลไลท์ (Satellite) แล้วก็โมโตจีพีของกลุ่มโรงงาน

โดยกลุ่มแซทเทิลไลท์นั้นพวกเขาจะไม่มีรถยนต์เป็นของตนเอง แม้กระนั้นจะใช้กรรมวิธีการเช่ารถยนต์มาจากค่ายผู้สร้างต่างๆโดยค่าใช้จ่ายในการเช่าเพื่อใช้ในลัษณะของการแข่ง 1 ฤดูนั้นจะอยู่ที่ราวคันละ 2 ล้านยูโร ซึ่งโดยทั่วไป กลุ่มแซทเทิลไลท์จะได้รถยนต์ปีเก่าจากกลุ่มโรงงานมาใช้แต่ง แต่ว่าถ้านักแข่งขันในกลุ่มทำผลงานเจริญโดยตลอด ค่ายผู้สร้าง ก็จะส่งรถยนต์ปีตอนนี้ที่กลุ่มโรงงานใช้มาให้นักแข่งขันคนนั้นขี่ หรืออาจะมีการดีลกับกลุ่มโรงงานเป็นกรณีไป

เครื่องยนต์กลไกที่ใช้สำหรับในการเป็นตัวสร้างความเร็วให้กับโมโตจีพีนั้นเป็นเครื่องยนต์กลไกระดับท็อปที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีการสร้างเวลานี้จะมี แล้วก็เพื่อทรงประสิทธิภาพ ทำความเร็วได้เกิน 350 กิโล/ชั่วโมง ผู้สร้างนั้นจะต้องทุ่มงบประมาณกว่า 200,000-250,000 ยูโร (ราว 8-10 ล้านบาท) อย่างยิ่งจริงๆ

ถ้าหากเปรียบเทียบโมโตจีพีเป็นเสมือนเพชร กรรมวิธีการประกอบหรือ Built Up ก็เปรียบได้กับการเจียระไน ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้ จะต้องใช้ทั้งยังทรัพยากรเงินแล้วก็คนเยอะมากๆ เพราะฉะนั้นงบประมาณในส่วนนี้ก็เลยอยู่ที่ 300,000-3,000,000 ยูโร (โดยประมาณ 12-120 ล้านบาท) นาๆประการตามกำลังสมบัติพัสถานของแต่ละโรงงาน

ไทเทเนียม, แมกนีเซียม, รวมทั้งคาร์บอนเส้นใย เป็นอีกหนึ่งสิ่งของหลักสำหรับเพื่อการใช้ผลิตรถยนต์โมโตจีพีแต่ละคัน โดยอุปกรณ์เหล่านี้ราคาแพงเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ยูโร/100 กรัม

ถ้าเกิดเครื่องจักรกลเป็นหัวใจ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็เปรียบได้เสมือนดั่งสมอง ที่ควบคุมระบบต่างๆในรถแข่งโมโตจีพีทั้งหมด มี เซ็นเซอร์, สายเคเบิล รวมทั้งแผงจัดตั้งวงจร โดยวัสดุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กลุ่มนี้แพงอยู่ที่ราว 100,000 ยูโร (ราว 4 ล้านบาท)

โดยปัจจุบันนี้ ฝ่ายจัดการชิงชัยได้บังคับให้รถยนต์ทุกคันในรุ่นโมโตจีพี จำต้องใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์กึ่งกลาง (แม้ว่าจะมีนิดหน่อยที่อนุญาตให้ผลิตเองได้) ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะช่วยลดทุนแล้ว ยังช่วยทำให้การประลองใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้น รถยนต์กลุ่มแซทเทิลไลท์สามารถชนะรถยนต์กลุ่มโรงงานได้

มาถึงปริศนาสำคัญของเนื้อหานี้แล้ว ซึ่งบอกไว้ก่อนเลยว่าการล้มแต่ละครั้ง สำหรับการชิงชัยโมโตจีพี นั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆเนื่องจาก คำตอบที่ตามมาเป็น รายจ่ายเป็นอย่างมาก สำหรับการซ่อม

ในกรณีความย่ำแย่น้อย ที่เกิดขึ้นในรอบๆแผ่นปิดดิสก์เบรก, บ้านพักเท้า, คันบิด, เบรกข้างหลัง, หรือส่วนประกอบน้อยอื่นๆที่เรียกว่า “Soft Impact” ซึ่งมีสาเหตุมาจากการล้มที่ไม่ร้ายแรงมากมาย นักแข่งขันสามารถคว้ารถยนต์ขึ้นมาแข่งถัดไปได้ จำต้องใช้งบประมาณ สำหรับใน การซ่อมบำรุงอยู่ที่ราว 15,000-20,000 ยูโร (ราว 6-8 แสนบาท)

การล้มที่ร้ายแรงขึ้น โดยความย่ำแย่เกิดขึ้นที่รอบๆยาง, ดิสก์เบรก, ระบบตอนล่าง, หม้อน้ำหรือระบบเซ็นเซอร์ด้านนอก จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมที่โดยประมาณ 100,000 ยูโร (ราวๆ 4 ล้านบาท)

สำหรับการล้มกรณีรุนแรงที่สุด ทำให้รถยนต์กำเนิดความเสื่อมโทรมที่รอบๆ สวิงอาร์ม, ตัวถัง, เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ข้างใน, ถังที่ไว้เพื่อใส่น้ำมัน บางทีอาจจำต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับในการซ่อมสูงสุดถึง 500,000 ยูโร (20 ล้านบาท) อย่างยิ่งจริงๆ

แต่ว่าแม้ว่าค่าซ่อมแซมจะแพงพราวแพรวขนาดไหน การจะให้บรรดานักแข่งขันมาขี่แบบ “ไม่มีอันตรายไว้ก่อน” ก็น่าจะไม่ใช่เรื่อง เพราะเหตุว่าโมโตจีพีคือสังเวียนต่อสู้ความเร็วเพื่อหาผู้ชนะ ฉะนั้นถึงแม้ว่าการขับรถด้วยความเร็ว 350 กม./ชั่วโมง บางครั้งก็อาจจะเสี่ยงส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่เอามาสู่รายจ่ายมากมายก่ายกอง

Author: admins