เลอมองส์ดราม่า แจ็คมิลเลอร์ยอดนักบิดจอมสั้นคนออสเตรเลียนจากดูคาติเลโนโวกลุ่ม ผงาดคว้าแชมป์ 2 สนามต่อเนื่องกัน
เลอมองส์ดราม่า ข้างหลังเข้าวินโมโตจีพี สนาม 5 รายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ ที่เต็มไปด้วยดราม่าตลอดทั้งเรซ ขณะสองนักบิดเจ้าถิ่น โยฮันน์ ซาร์โก และก็ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร คัมแบ็กขึ้นโพเดี้ยม
ด้านมาร์คมาร์เกซ ขึ้นนำได้แต่ว่าพลาดล้มถึง 2 ครั้ง จากเกมสุดเดือดเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ ที่เลอมองส์ เซอร์กิต การประลองรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงชนะเลิศโลกโมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 สนาม 5 รายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค.ก่อนหน้านี้ ที่เลอมองส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส ระยะทางต่อรอบ 4.2 กิโล ประกวดทั้งปวง 27 รอบสนาม
ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของฟาบิโอกวาร์ตาราโร นักบิดเจ้าถิ่นจาก มอนสเตอร์ยามาฮ่า ประกบข้างด้วยกลุ่มมันข้นอย่าง มาเวริคบีญาเลสในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ แจ็คมิลเลอร์นักบิดออสซี่จากดูคาติเลโนโวกลุ่ม ข่าวโมโตจีพีวันนี้
ด้านมาร์คมาร์เกซ นักบิดต่างดาวจากเรปโซลฮอนด้า ได้ออกสตาร์ทจากกริทดี่ 6 ส่วน วาเลนติโนรอสซี่กลับมาเริ่มเกมในกริดที่ 9 ก่อนเริ่มเกมในวันอาทิตย์พยากรณ์สภาพอากาศชี้ว่าอาจมีฝนตกระหว่างการประลอง
แต่นับจากรุ่น โมโตทู จนกระทั่งโมโตจีพี แทร็กกลับมาแห้งสนิทอีกรอบ ออกตัวเรซด้วยการทะยานขึ้นนำของ มิลเลอร์และก็ตามด้วย บีญาเลสแล้วก็กวาร์ตาราโร โดย 3 นักบิดฮอนด้าอย่างมาร์คมาร์เกซ, โปลเอสปาร์กาโรและก็ ทาคาอากิ นาคากามิ ทะทะยานขึ้นมาติดกรุ๊ปท็อป 6 อย่างเร็ว
เลอมองส์ดราม่า รอบที่ 3 ฝนเริ่มเทลงมาอย่างมาก ขณะผู้ตัดสินส่งสัญญาณให้นักบิดทุกคนต่อรถแข่งขันได้
เลอมองส์ดราม่า ก่อนที่จะ โจอัน เมียร์ จะพลาดล้มไปก่อน ตอนที่ภายหลังเข้าเปลี่ยนแปลงยางในรอบที่ 5 นักบิดทุกคนทะยอยออกมาจากพิตด้วยการขยับขึ้นนำของมาร์คมาร์เกซ และก็ตามด้วยกวาร์ตาราโร ในชั้น 2
เลอมองส์ดราม่า ส่วน อเล็ก รินส์ พลาดล้มไป ในตอนที่ 2 นักบิดดูคาติอย่าง มิลเลอร์และก็ ฟรานเชสโก้บันยาญ่าโดนลงอาญา ดับเบิ้ล ทดลอง แล็ป เพนัลตี้ (วิ่งผ่านทดลองแล็ป 2 ครั้ง) จากการใช้ความเร็วในพิตเลนเกินลิมิต ผ่านการแข่งขันชิงชัย 7
รอบแรก มาร์เกซ เป็นหัวหน้าเหนือกวาร์ตาราโร กว่า 2 วินาที แต่ว่าชะตากรรมกลับโจมตีแชมป์โลก 8 ยุคอีกรอบ ภายหลังพลาดล้มอย่างโชคร้ายในโค้ง 14 ของรอบที่ 8
แม้กระนั้นยังนำรถยนต์ขึ้นมาฝ่าต่อได้ ทำให้หัวหน้าแปลงกลับมาเป็นของกวาร์ตาราโร อย่างไรก็แล้วแต่ มิลเลอร์ที่แม้ว่าจะเข้าต้องโทษ ทดลอง แล็ป เพนัลตี้ ไปแล้ว 2 แต่สามารถไล่แซงกวาร์ตาราโร ได้เสร็จในรอบที่ 11
ในเวลาที่กวาร์ตาราโร โดนลงอาญา ทดลอง แล็ป เพนัลตี้ จากจังหวะที่เข้าต่อรถแข่งขันไม่ถูกช่อง โดยในรอบที่ 12 มิเกล โอลิเวียรา นักบิดโปรตุกีสจาก เคทีเอ็ม พลาดล้มจะต้องออกมาจากเรซไป ดูบอลสด
แล้วในรอบที่ 13 รินส์ กลับมาพลาดล้มครั้งที่ 2 ตอนนี้ไม่สามารถที่จะนำรถแข่งมาฝ่าต่อได้ ก่อนที่จะ โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดเจ้าถิ่นอีกรายจาก พรามัค เรซซิ่ง จะขยับแซง นาคากามิ ขึ้นมารั้งชั้น 3
ส่วนอเล็กซ์มาร์เกซ นักบิดสแปนิชจาก แอลซีอาร์ ฮอน้า ขยับจากกริดที่ 19 ขึ้นมารั้งชั้น 5 ในรอบเดียวกัน มาร์เกซ พลาดล้มอีกรอบในตอน 10 รอบท้ายที่สุด ที่โค้ง 6 โอกาสนี้กลับมาฝ่าต่อไม่ติด
รอบต่อๆมาอเล็กซ์มาร์เกซ สามารถขยับแซงกลุ่มเมทอย่าง นาคากามิ ขึ้นมารั้งชั้น 4 ได้เสร็จ โดยในตอน 5 รอบในที่สุดบันยาญ่า ที่แม้ว่าจะได้ออกสตาร์ทจากกรุ๊ปข้างหลังแต่ว่าขยับขึ้นมาถึงชั้น 4 ได้เสร็จ
ผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันปรากฏว่า มิลเลอร์นำรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 47 นาที 25.473 วินาที ทิ้งห่าง ซาร์โก ชั้น 2 ถึง 3.970 วินาที ส่วนชั้น 3 เป็นของกวาร์ตาราโร ตามหลังแชมป์ 14.468 วินาที ด้านบันยาญ่า ทะยานขึ้นมาคว้าชั้น 4 และก็ตามด้วย เปตรุชชี และก็อเล็กซ์มาร์เกซ ในชั้น 5 และก็ 6
มิลเลอร์รับไม่เชื่อโดน “ดับเบิ้ล ทดลองแล็ป” เลอมองส์
เลอมองส์ดราม่า แจ็คมิลเลอร์แชมป์ 2 สนามปัจจุบันของโมโตจีพี จากดูคาติเลโนโวกลุ่ม เปิดเผยเชื่อว่าสายตาว่าโดนลงทัณฑ์ “ทดลอง แล็ป เพนัลตี้” ถึง 2 ครั้ง จากการใช้ “ความเร็วในพิตเกิน” ก่อนคว้าแชมป์ที่เลอมองส์ ในเรซสุดดราม่าเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้
เลอมองส์ดราม่า มิลเลอร์โดนจับฟาล์วในจังหวะที่นำรถยนต์เข้าพิตเพื่อต่อรถแข่งขันในรอบที่ 5 แม้กระนั้นเขาพุ่งเข้ามาเร็วเหลือเกิน นำมาซึ่งการทำให้ความเร็วเกินที่กฎระบุใน “พิตเลน” ทั้งยัง มิลเลอร์แล้วก็กลุ่มเมทอย่าง ฟรานเชสโก้บันยาญ่าต่างก็ถูกลงโทษ “ทดลองแล็ป เพนัลตี้” คนละ 2 ครั้ง ด้วยข้อผิดพลาดเดียวกัน
ซึ่งตัวเขาเอง “ไม่คิดว่า” การแจ้งเตือนนั้นจะถูก ทั้งหมดทั้งปวงนี้เกิดขึ้นภายหลังที่ มิลเลอร์พลาดหลุดโค้ง 11 ก่อนที่จะรีบกดคันเร่งเพื่อนำรถยนต์เข้ามากลายเป็นรถยนต์ที่ใส่ยางฝน
อย่างไรก็ตาม วันหลังออกมาจากพิต มิลเลอร์ก็เข้าต้องโทษ “ทดลองแล็ป เพนัลตี้” 2 รอบต่อเนื่องกัน ในรอบที่ 9 แล้วก็ 10 ก่อนที่จะกดเวลาไล่ล่าตำแหน่งหัวแถวจากฟาบิโอกวาร์ตาราโร ได้ในรอบที่ 12 “มันเป็นเรซที่นาน สำหรับขณะนั้นนะ”
มิลเลอร์เปิดเผยข้างหลังคว้าแชมป์ที่ 2 ต่อเนื่องกัน ผมมีความคิดว่ามันไม่น่าจะมีอะไร ด้วยเหตุว่าแทร็กมันแห้งมากมาย แม้กระนั้นเมื่อ มาเวริคบีญาเลสเริ่มจี๋เข้ามา ปรากฏว่าข้างหน้าผมมีละอองฝนนิดนึง ผมถูกจู่โจมด้วยคู่คิด มอนสเตอร์ยามาฮ่า
แน่ๆว่าฟาบิโอกวาร์ตาราโร ก็ตามมาอีกผู้ที่โค้ง 8 และก็จากนั้นผมก็ราวกับข้างหลังชนฝา พวกเราทั้งผองราวกับบิดเข้าพบกำแพงที่ฝน แล้วก็รถแข่งของเขา (กวาร์ตาราโร) ก็พุ่งไปสู่ชิเคนเป็นคนแรก และก็ผมก็ตามเข้าไป สร้างผลงานดีเลิศ
ผมบากบั่นหยุดล้อมอีกทั้งหน้าและก็ข้างหลังเพื่อไม่ให้รถยนต์หลุดลงบ่อก้อนกรวด การโดนลงทัณฑ์ ดับเบิ้ล ทดลองแล็ป เพนัลตี้ ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาในขณะนั้น ผมรู้สึกว่า ‘นี่มันไม่น่าจะถูก’ แล้วล่ะ
แม้กระนั้นสนามที่แต็มไปด้วย กับแบบคลาสสิคของเลอมองส์ ก็ทำร้ายผมตลอดระยะเวลา ผมจำต้องสลัดมันทิ้งให้ได้ เนื่องจากว่าผมมิได้นึกถึงเรื่อง ทดลอง แล็ป เลยตลอดทั้งสุดสัปดาห์ ผมเข้าไปจุดต้องโทษ และก็ดูท่ายางมะตอยโซนนั้นจะเก่า รวมทั้งลื่นเล็กน้อย
แต่ว่าครั้งที่ 2 ผมทำเป็นเร็วกว่าเดิม ทำให้ผมไม่เสียเวล่ำเวลาไปๆมาๆกนัก ก่อนที่จะสามารถไล่หลังเข้าได้ทัน ในขณะที่วิ่งอยู่ในช่วงท้ายเรซ มิลเลอร์ได้ส่งสัญญาณไปยังกลุ่มของเขาให้จัดแจงรถแข่งที่ใส่ยางแห้งไว้
แต่ว่าสุดท้ายก็เลือกที่จะไม่เข้าไปต่อรถแข่งขัน ด้วยเหตุว่ายังเพียงพอมีหน้ายางคงเหลืออยู่ รวมทั้งคงจะสมาคมกับตอนที่คงเหลือสำหรับเพื่อการแข่ง ผมนึกถึงหัวข้อการต่อรถแข่งขันอีกที (ยางแห้ง) แต่ว่าก็ไม่เคยรู้ว่าหากเข้าไปเปลี่ยนแปลงจะมีผลให้กำเนิดระยะห่างเพียงใด
แล้วก็ผมเองก็ออกจะไม่ค่อยสบายใจนิดหนึ่ง ตอน 7 รอบในที่สุด ผมจำต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 40 วินาที สำหรับในการวิ่งผ่านพิตเลน เนื่องจากว่าพิตเลนตรงนี้ยางมากมาย
