ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้น สูงวัยก็สามารถทำได้เช่นกันในกีฬาประเภทนี้

ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้น

ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้น ในยุคปัจจุบัน “ฟอร์มูล่า วัน” อาจเป็นกีฬาสำหรับคนหนุ่ม ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้น

ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้น ที่ต้องอาศัย ความสามารถ และปฏิกิริยา ตอบสนอง ในการควบคุมรถ ที่กำลังสูงถึง 800 แรงม้า ทว่าเมื่อ เดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา โรสแมรี่ สมิธ คุณยายวัย 79 ปี ได้สร้างสถิติใหม่ กับการเป็นบุคคล ที่อายุมากที่สุด ที่ได้ขับรถ สุดยอดความเร็ว ของโลกระดับฟอร์มูล่า วัน

เหตุการณ์ ประวัติศาตร์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากการที่ เรโรลต์ ทีมแข่งดัง ในการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ถือโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปี การก่อตั้งทีมแข่ง เข้าแข่งขันในศึกเอฟวัน ด้วยการสานฝันให้กับ โรสแมรี่ สมิธ คุณยายวัย 79 ปี จากไอร์แลนด์ ผู้ซึ่งเคยเป็นนักแข่งแรลลี่หญิงชื่อดังในอดีต ได้มาขับรถ เรโนลต์ 17 รถแข่งที่ทีมใช้ใน การแข่งขันเอฟวัน ยุคปัจจุบัน

การขับใน ครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ สนาม พอล ริคาร์ด สนามแข่งรถชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส โดยมี โจลีออน พาลเมอร์ นักขับชาวอังกฤษของทีมเรโนลต์ เอฟวัน ฤดูกาลปัจจุบัน ให้คำแนะนำ ร่วมกับ เดฟ มังค์ ผู้อำนวยการของทีม

ซึ่งทันทีที่คุณยายโรสแมรี่ ได้นำรถเรโนลต์เอฟวันลงขับบนแทร็กสนามพอล ริคาร์ด ก็ส่งผลให้เธอทำสถิติอย่างเป็นทางการในการเป็นบุคคลที่อายุมากที่สุดในโลกที่ขับรถในระดับความแรง 800 แรงม้า อีกด้วย รูปแบบและความมันส์

ภายหลังเสร็จสิ้นภาระกิจ โรสแมรี่ สมิธ ที่ให้อดีตเคยคว้าแชมป์แรลลี่ ประเภทหญิง ในรายการ ทิวลิป แรลลี่ ที่เนเธอร์แลนด์ ในปี 1965 เผยว่า “การขับรถ 800 แรงม้า มันคือความฝันของฉัน และไม่คิดว่าจะได้ทำมันจริงๆ มันเป็นความรู้สึกและประสบการณ์ที่ต่างไปจากการขับแรลลี่อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะการได้นั่งอยู่หลังพวงมาลัยและควบคุมทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว”

ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้น

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ดราม่าหัวเชื้อน้ำมันเครื่อง”

กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในแวดวงมอเตอร์ริ่งบ้านเรา ชนิดที่เด้งขึ้น มาบนหน้า ฟีดเฟสบุ๊คของผม แทบจะตลอดทั้งวัน เห็นแล้วก็ อดเป็นห่วง ท่านที่เคยใช้สินค้า ประเภทนี้อยู่เบาๆ เพราะจริงๆแล้ว เพียงแค่ใช้น้ำมัน เครื่องเกรดดีๆ แล้วเปลี่ยนถ่ายตามระยะ แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ

ส่วนประเด็นดราม่าน้ำมันเครื่อง (รถเอฟวัน) ที่จั่วหัวเอา ไว้ในตอนนี้ จริงๆแล้วมันเกิดขึ้น ในการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ก่อนดราม่า ในบ้านเรา หลายเดือนอยู่ เมื่อทีมแข่งอย่างเรดบูลล์ เรซซิ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า ผลการควอลิฟาย ที่แทบจะผูกขาด โดยเมอร์เซเดส ส่วนหนึ่งมาจากการใช้เทคนิค ที่นำน้ำมันเครื่องไปเผาไหม้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มความแรงของเครื่องยนต์ ข่าวโมโตจีพีวันนี้

ย้อนไปตอนที่ทีมเรดบูลล์ออกมาเปิดประเด็นนี้ ผมเองไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะมองเป็นเรื่องทางเทคนิคมากๆ จวบจนช่วงเดือนที่ผ่านมา การเผาน้ำมัน กลับมาเป็นประเด็นร้อนในวงการเอฟวันอีกครั้ง เมื่อ สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) ออกกฎให้รถแต่ละคันต้องมีอัตราการบริโภคน้ำมันเครื่อง ไม่เกิน 0.9 ลิตร/100 กม. ตั้งแต่การแข่งขันที่อิตาลีเป็นต้นมา

ซึ่งนั่นเท่ากับว่า เอฟไอเอ น่าจะไปตรวจะพบความผิดปกติบางอย่างในการปรับแต่งเครื่องยนต์ของเมอร์เซเดส แต่ไม่สามารถหาหลักฐานมาลงโทษแบบจริงจังได้ เลยออกกฎมาแบบเหมารวมมันซะเลย เนื่องจากกฎเดิมที่ใช้อยู่นั้น กำหนดอัตราบริโภคน้ำมันเครื่องเอาไว้ที่ 1.2 ลิตร/100 กม. และกฎนี้ก็จะมีแนวโน้มที่จะปรับเป็น 0.6 ลิตร/100 กม.ในปี 2018 ด้วย

พูดถึงไอ้เจ้าน้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันหล่อลื่น นั้น หลายคนรวมถึงผมเองมีข้อสงสัยอยู่ในใจว่า น้ำมันจำพวกนี้มันไม่ใช่วัตถุไวไฟแล้วมันจะเข้าไปช่วยทำหน้าที่เผาไหม้เหมือนกับน้ำมันเชื้อเพลิง ได้อย่างไร ผมเองในฐานะแฟนรายการ สปีดทอร์ค ทางช่อง สปีดชาแนล เลยยกหูสอบถามไปยังกูรูมอเตอร์ริ่ง อย่าง “อาจารย์เอ็กซ์” รณกร พรรณรังษี หนึ่งในพิธีกรคนโปรด ดูบอลสด

ซึ่งอาจารย์เอ็กซ์ยืนยันว่า มีความเป็นไปได้ที่ทีมแข่งจะนำเทคนิคนี้มาใช้ เพราะแม้ว่าน้ำมันเครื่องจะไม่มีคุณสมบัติไวไฟเหมือนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่มันสามารถติดไฟได้เมื่อถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม แต่การจะใช้น้ำมันเครื่องเข้าไปในระบบเผาไหม้นั้น ก็น่าสนใจอีกว่านำน้ำมันเครื่องเข้าไปด้วยวิธีใด รวมถึงใช้เผาไหม้โดยตรงเลยหรือไม่ ซึ่งนั่นคือความลับและเทคนิคที่น่าสนใจมากๆ

สุดท้าย ไม่ว่าดราม่านี้จะจบอย่างไร ผมกลับมองว่าเอฟไอเอเป็นองค์กรที่น่าเห็นใจมากๆ เพราะทุกครั้งที่ทีมแข่งใด มีเทคนิคเฉพาะตัวที่ทำให้รถไปได้เร็วขึ้น ทีมแข่งอื่นๆก็มักจะตั้งข้อสังเกต และร้องเรียนอยู่เป็นประจำ

เหมือนในยุคหนึ่งที่ อุปกรณ์ด้านท้ายที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถขณะเข้าโค้ง ของทีมเรดบูลล์ ก็เคยถูกทีมอื่นร้องเรียนจนถูกแบนมาแล้ว เพราะหากมองมุมกลับ นี่คือสุดยอดเทคนิคและเทคโนโลยี ที่บางทีวันหนึ่งมันอาจถูกติดตั้งอยู่ในรถที่เราใช้กันบนท้องถนนก็เป็นได้

Author: admins